กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566
กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566
กฎ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผล การปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 23 ( 2) และมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติ ตารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 2/2566 เมื่ อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 จึงออกกฎ ก.ตร. ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กฎ ก.ตร. นี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 2 กฎ ก.ตร. นี้ มีหลักการที่จะประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติราชการ ของข้าราชการตาร วจบนพื้นฐานของผลสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก ข้อ 3 การประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา ใช้เป็นเครื่องมือในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติราชการและนาผลการประเมิน ไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิ จารณาแต่งตั้งและเลื่อนเงินเดือน ข้อ 4 การประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจ ให้ประเมินจากผลงานและ คุณลักษณะผู้ปฏิบัติราชการ ดังนี้ (1) การประเมินผลงานให้พิจารณาจากองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ (ก) ปริมาณงาน (ข) คุณภาพของผลงาน (ค) ความทันเวลา (ง) ผลลั พธ์ ประโยชน์ในการนาไปใช้และประสิทธิผลของงาน (จ) การประหยัดทรัพยากรหรือความคุ้มค่าของผลงาน ้ หนา 29 ่ เลม 140 ตอนที่ 31 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 พฤษภาคม 2566
(2) การประเมินคุณลักษณะผู้ปฏิบัติราชการให้พิจารณาจากองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้ (ก) ความสามารถและความอุตสาหะในการปฏิบัติราชการ (ข) การรักษาวินัย (ค) การปฏิบัติตนเหมำะสมกับการเป็นข้าราชการตารวจ การประพฤติตนตามประมวล จริยธรรมข้าราชการตารวจ และจรรยาบรรณของข้าราชการตารวจ (ง) ความคิดริเริ่ม การสร้างสรรค์ และงานเชิงรุก สำนักงานตำรวจแห่งชาติอาจกำหนดให้มีองค์ประกอบการประเมินอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ ตามความเหมาะสมของลักษณะภาร กิจและสภาพการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจในตาแหน่งต่าง ๆ โดยให้กำหนดตัวชี้วัดขององค์ประกอบการประเมิน รวมทั้งแบบประเมินผลการปฏิบัติราชการของ ข้าราชการตารวจให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม ข้อ 5 ให้มีการกาหนดข้อตกลงเกี่ยวกับผลการปฏิบัติราชการร่วมกันระหว่างผู้ประเมิน และ ผู้รับการประเมิน เช่น แผนงาน โครงการ กิจกรรม หรือผลงานที่กำหนดในการมอบหมายงาน เป็นต้น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงข้อตกลงผลการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือภารกิจหลักที่ได้มี การกำหนดไว้ด้วย ข้อ 6 ให้ประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตารวจ ปีล ะ 2 ครั้ง ตามรอบ ปีงบประมาณ คือ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง 31 มีนาคม ของปีถัดไป ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 30 กันยายน ของปีเดียวกัน ข้อ 7 การประเมินผลการปฏิบัติราชการ ให้มีสัดส่วนคะแนนการประเมินจากผลงานไม่น้อยกว่า ร้อยละ 7 0 และแบ่งกลุ่มผลการประเมินไม่น้อยกว่า 3 กลุ่ม เช่น กลุ่มสูงกว่ามาตรฐานกลาง กลุ่มอยู่ใน มาตรฐานกลาง และกลุ่มต่ากว่ามาตรฐานกลาง เป็นต้น โดยให้ผู้บังคับบัญชาจัดทาบัญชีรายชื่อผู้ที่มี ผลการประเมิ นไว้ให้ชัดเจนทุกครั้งที่มีการประเมิน ข้อ 8 ให้มีการแจ้งการประเมินและผลการประเมิน การเปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อปรึกษาหารือ แนะนำเกี่ยวกับการประเมินและผลการประเมิน การประกาศรายชื่อผู้ที่มีผลการประเมินอยู่ในกลุ่มสูงกว่า มาตรฐานกลางในที่เปิดเผย ข้อ 9 ให้มีคณะ กรรมการพิจารณาผลการประเมินเพื่อทำหน้าที่พิจารณาคำร้องทุกข์ ของผู้รับการประเมินที่เห็นว่า ผลการประเมินของตนไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง ข้อ 1 0 เมื่อเสร็จสิ้นการประเมินผลการปฏิบัติราชการแต่ละครั้งแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาหรือ ผู้ประเมินนำผลการประเมินไปใช้ประกอบการ พิจารณาแต่งตั้งและเลื่อนเงินเดือน รวมทั้งการให้ คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้รับการประเมิน เพื่อให้มีการแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาการปฏิบัติราชการให้มี สมรรถนะและผลสัมฤทธิ์ของงานดียิ่งขึ้น ้ หนา 30 ่ เลม 140 ตอนที่ 31 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 พฤษภาคม 2566
ข้อ 1 1 ให้มีระบบการจัดเก็บผลการประเมิน เพื่อนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กาหนด ข้อ 12 ให้สานักงานตารวจแห่งชาติดาเนินการกาหนดรายละเอียด วิธีการ เพื่อถือปฏิบัติ ตามกฎ ก.ตร. นี้ รวมทั้งการปรับปรุงและพัฒนาการประเมินผลการปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง มติคณะรัฐมนตรี ภารกิจและลักษณะงานที่เกี่ยวข้อง และมีอา นาจใน การวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการตารวจ ให้ไว้ ณ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 25 6 6 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการข้าราชการตารวจ ้ หนา 31 ่ เลม 140 ตอนที่ 31 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 พฤษภาคม 2566
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใ ช้กฎ ก.ตร . ฉบับนี้ คือ พระราชบัญญัติตารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีบทบัญญัติกาหนดให้มีกฎหมายลาดับรองเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตาม พระราช บัญญัติ ตารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการของสานักงานตารวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องออกกฎ ก.ตร. นี้ ้ หนา 32 ่ เลม 140 ตอนที่ 31 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 พฤษภาคม 2566