Tue Apr 11 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 19/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2566 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสุรพล พุฒแก้ว ผู้ถูกกล่าวหา]


คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 19/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2566 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสุรพล พุฒแก้ว ผู้ถูกกล่าวหา]

( อม.34 ) คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ อม. 19/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2566 ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง วันที่ 8 เดือน มีนาคม พุทธศักราช 2566 คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้รอง นายสุรพล พุฒแกว ผู้ถูกกลาวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้รองยื่นคํารองและแกไขคํารองขอให้วินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควร เชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพนจากตําแหนงนายกองคการบริหาร สวนตําบลหวยแหง อําเภอแกงคอย จังหวัดสระบุรี ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 , 114 วรรคสอง (1 ), 167 ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ ระหวาง ้ หนา 34 ่ เลม 140 ตอนที่ 27 ก ราชกิจจานุเบกษา 11 เมษายน 2566

พิเคราะหคํารอง ประกอบเอกสารทายคํารอง และคําให้การของผู้ถูกกลาวหาแล้ว ขอเท็จจริง รับฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาเขารับตําแหนงนายกองคการบริหารสวนตําบลหวยแหง อําเภอแกงคอย จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 และพนจากตําแหนงเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ผู้ถูกกลาวหาจึงเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และ บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนง และกรณีพนจากตําแหนง ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงแล้ว ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รอง กรณีพนจากตําแหนงภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2561 แต่ผู้ถูกกลาวหาไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองและมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนา ไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และมีหนังสือให้ผู้ถูกกลาวหา ไปรับทราบขอกลาวหา ซึ่งผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพนจากตําแหนง ภายหลังจากที่มีการแจงขอกลาวหาและชี้แจงขอกลาวหาแล้ว มีปญหาต้องวินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพนจากตําแหนงนายกองคการบริหารสวนตําบลหวยแหง หรือไม่ เห็นวา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใชบังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใชในภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคํารอง เป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเทาเดิม จึงต้องใชพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 อันเป็นกฎหมายที่ใชในขณะกระทําความผิดบังคับแกคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง สวนการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งซึ่งเป็นมาตรการ จํากัดสิทธิทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็นคุณ จึงต้องใชพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแกคดีนี้เชนเดียวกัน แต่องคประกอบความผิด ้ หนา 35 ่ เลม 140 ตอนที่ 27 ก ราชกิจจานุเบกษา 11 เมษายน 2566

ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง ในสวนที่วาจะต้องมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วาผู้ถูกกลาวหามีเจตนา ไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น เป็นคุณแกผู้ถูกกลาวหามากกวากฎหมายเดิม จึงต้องนําพฤติการณดังกลาว มาประกอบการวินิจฉัยการกระทําความผิดด้วย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ที่บัญญัติให้ใชกฎหมาย ในสวนที่เป็นคุณไม่วาในทางใด เมื่อขอเท็จจริงฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงนายกองคการบริหาร สวนตําบลหวยแหง ผู้ถูกกลาวหาจึงเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้รองภายในสามสิบวันนับแต่วันเขารับตําแหนง และวันพนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงแล้ว ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง กรณีพนจากตําแหนงภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2561 แต่ผู้ถูกกลาวหา ไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อปองปราม ผู้ใชอํานาจรัฐโดยมิชอบ ทั้งผู้ถูกกลาวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงแล้ว ถือได้วาผู้ถูกกลาวหาทราบถึงรายละเอียดและที่มาแห่งทรัพย์สินของตน เป็นอยางดี แมปรากฏตามรายงานการไตสวนวาผู้ถูกกลาวหายื่นคําชี้แจงขอกลาวหาและยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ก็เป็นการยื่นภายหลังถูกแจงขอกลาวหาแล้ว จึงมิใชการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รองภายในกําหนด ประกอบกับผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณ มีเหตุอันควรเชื่อได้วาผู้ถูกกลาวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน จึงฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีพนจากตําแหนง นายกองคการบริหารสวนตําบลหวยแหง มีผลหามมิให้ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาหาปนับแต่วันที่พนจากตําแหนงตามพระราชบัญญัติ ้ หนา 36 ่ เลม 140 ตอนที่ 27 ก ราชกิจจานุเบกษา 11 เมษายน 2566

ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง นอกจากนี้ การกระทําของผู้ถูกกลาวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย พิพากษาวา นายสุรพล พุฒแกว ผู้ถูกกลาวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น กรณีพนจากตําแหนงนายกองคการบริหารสวนตําบลหวยแหง อําเภอแกงคอย จังหวัดสระบุรี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 , 33 หามมิให้ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมืองหรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาหาปนับแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกลาวหาพนจากตําแหนง นายกองคการบริหารสวนตําบลหวยแหง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8 , 000 บาท ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4 , 000 บาท ไม่ปรากฏวาผู้ถูกกลาวหาเคยได้รับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว มีกําหนด 1 ป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระคาปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30 คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก. นายชัยเจริญ ดุษฎีพร นางวยุรี วัฒนวรลักษณ นายธนิต รัตนะผล นายวิชัย ชางหัวหน้า นายอรุณ เรืองเพชร นายไชยยศ วรนันทศิริ นายวินิตย ศรีภิญโญ นางสาวบุญมี ฐิตะศิริ นายประยูร ณ ระนอง ้ หนา 37 ่ เลม 140 ตอนที่ 27 ก ราชกิจจานุเบกษา 11 เมษายน 2566