ระเบียบ ก.บ.ศป. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้ กรณีเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาทของเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ พ.ศ. 2566

ระเบียบ ก.บ.ศป. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้ กรณีเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาท ของเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้ เพื่อเป็น การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่เจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาทของเจ้าหน้าที่ของ ศาลปกครองที่ได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ ซึ่งได้รับเงินไปโดยมิใช่กรณีที่เกิดจาก การกระทำโดยไม่สุจริต และแสดงความประสงค์จะชำระเงินคืนให้แก่สำนักงานศาลปกครอง แต่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ดังกล่าวคืนในคราวเดียว อาศัยอานาจตามความในมาตรา 41/8 (1) และ (6) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง และ วิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 คณะกรรมการบริหารศาลปกครอง (ก.บ.ศป.) จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบ ก.บ.ศป. ว่าด้วย หลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้ กรณีเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาทของเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับ เงินไปโดยไม่มีสิทธิ พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งอื่นใดในส่วนที่มีกำหนดไว้แล้ว ในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน ข้อ 4 การใดที่มิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้นำหลักเกณฑ์ว่าด้วยการผ่อนชำระหนี้ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดมาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 5 ในระเบียบนี้ “ เจ้าหน้าที่ของศาลปกครอง ” หมายความว่า ข้าราชการตุลาการศาลปกครอง ข้าราชการ ฝ่ายศาลปกครอง พนักงานราชการและลูกจ้างสานักงานศาลปกครอง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งในฐาน ะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ กรรมการ อนุกรรมการ หรือฐานะอื่นใด เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในศาลปกครองหรือสานักงาน และให้หมายความรวมถึงผู้ที่เคยดารงตาแหน่ง ดังกล่าวด้วย “ ผู้ขอผ่อนชาระ ” หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาทของเจ้าหน้าที่ของ ศาลปกค รองผู้ได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง “ วงเงินที่ผ่อนชาระ ” หมายความว่า จานวนเงินที่ได้รับไปเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ หรือจำนวนเงินที่ยังค้างชำระ ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 24 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 มีนาคม 2566

“ เงินได้รายเดือน ” หมายความว่า (1) เงินเดือน เงินประจาตาแหน่ง เงินค่าตอบแทนพิเศษพนักงานคดีปกครอง เงินค่าตอบแทน ที่เจ้าหน้าที่ของศาลปกครองได้รับแน่นอนเป็นรายเดือน บานาญ และรายได้อื่น (2) เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินค่าตอบแทนอื่นที่ได้รับจากการประกอบอาชีพ และรายได้อื่นของทายาทหรือบุคคลอื่นที่เ กี่ยวข้อง “ สำนักงาน ” หมายความว่า สำนักงานศาลปกครอง ข้อ 6 การอนุมัติให้ผ่อนชำระตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ ต้องเป็นกรณีที่ ขอผ่อนชาระเต็มจานวนที่ต้องชดใช้คืนและต้องมิใช่กรณีที่เกิดจากการกระทาโดยไม่สุจริตของผู้ได้รับ เงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโ ดยไม่มีสิทธิ ข้อ 7 เมื่อเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองหรือทายาทของเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองผู้ได้รับ เงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เสนอขอผ่อนชาระ ให้สานักงานปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ (1) ตรวจสอบสถานภาพปัจจุบัน ณ วันเสนอขอผ่อนชำระเกี่ยวกับเงินได้รายเดือน ค่าใช้จ่าย และทรัพย์สินของผู้ขอผ่อนชาระและคู่สมรส โดยมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรจากบุคคลดังกล่าว หรือหน่วยงานเจ้าของข้อมูล แล้วแต่กรณี เพื่อประกอบการพิจารณา (2) ให้ผู้ขอผ่อนชาระจ่ายดอกเบี้ยผิดนัดตามกฎหมายโดยคาน วณจนถึงวันทาสัญญาผ่อนชาระหนี้ ส่วนที่เหลือให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนโดยงดการคิดดอกเบี้ยระหว่างการผ่อนชำระ ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้ (ก) กรณีวงเงินที่ผ่อนชำระไม่เกินสองแสนบาท ให้ผ่อนชำระภายในกำหนดเวลาไม่เกินห้าปี (ข) กรณีวงเงินที่ผ่อนชำระเกินกว่าสองแสนบาท ใ ห้ผ่อนชำระภายในกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี (3) ในกรณีที่ไม่สามารถทาสัญญาภายในระยะเวลาที่สานักงานกาหนด เนื่องจากเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้ขอผ่อนชำระไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ผู้ขอผ่อนชำระ ไม่ต้องชำระดอกเบี้ยผิดนัดภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าว (4) ผู้ขอผ่อนชำระต้องชำระเงินให้แก่สำนักงานเป็นรายเดือน ในกรณีที่ผู้ขอผ่อนชำระ เป็นเจ้าหน้าที่ของศาลปกครองซึ่งมีสิทธิได้รับเงินได้รายเดือนจากสานักงาน หรือเป็นข้าราชการบำนาญ ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินได้รายเดือ นจากกระทรวงการคลังหรือหน่วยงานอื่น ต้องมีหนังสือยินยอมให้สำนักงาน หักเงินได้รายเดือนหรือเงินค่าตอบแทนใด ๆ เพื่อผ่ อนชาระเป็นรายเดือนจนกว่าจะครบ ข้อ 8 ผู้ขอผ่อนชาระต้องทาหนังสือรับสภาพหนี้ และสัญญาผ่อนชาระหนี้ ตามแบบที่ สำนักงานกาหนด หากบุคคลดังกล่าวผิดนั ดชำระเงินสองงวดติดกัน หรือผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง ผู้ขอผ่อนชำระต้องชำระดอกเบี้ยผิดนัดและจะถูกดาเนินการตามที่กฎหมายกำหนด ข้อ 9 ผู้ขอผ่อนชาระซึ่งออกจากราชการก่อนครบกาหนดเวลาการผ่อนชาระที่ได้รับอนุมัติ ให้ผู้นั้นผ่อนชำระต่อไปได้ เว้นแต่สำนักงานจะเห็นเป็น อย่างอื่น ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนที่ 24 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 มีนาคม 2566

ข้อ 10 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของศาลปกครองผู้ได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ ตายในระหว่างการผ่อนชาระ ให้สานักงานเรียกให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกชาระหนี้ที่ค้างชำระทั้งหมด หรือให้สานักงานทาความตกลงกับทายาทซึ่งเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินบา เหน็จตกทอดของเจ้าหน้าที่ของ ศาลปกครองผู้ได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ โดยทาหนังสือยินยอมให้ทางราชการ หักเงินดังกล่าวชาระหนี้ที่เหลืออยู่ หรือขอผ่อนชาระหนี้ที่เหลืออยู่ตามระเบียบนี้ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ภายในอายุความมรดก ข้อ 11 ระเบี ยบนี้ให้ใช้บังคับกับผู้ขอผ่อนชำระที่ได้รับอนุมัติให้ผ่อนชำระเงินที่ได้รับไป เกินสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ โดยผู้ขอผ่อนชำระมีสิทธิ มาทาสัญญาตามระเบียบนี้ แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงการผ่อนชาระเงินที่ได้รับไปเกินสิทธิหรื อได้รับ เงินไปโดยไม่มีสิทธิในระหว่างช่วงเวลาก่อนที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ข้อ 12 ให้เลขาธิการสำนักงานศาลปกครองรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความ และวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ และกำหนดวิธีการและแบบพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 2 2 มีนาคม พ.ศ. 25 6 6 วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานกรรมการบริหารศาลปกครอง ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 24 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 มีนาคม 2566