Sat Mar 18 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

พระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566


พระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566

พระราชบัญญัติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 25 6 6 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “ พระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ” มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มา ตรา 3 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 7 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

“ มาตรา 8 ราชวิทยาลัยอาจแบ่งส่วนงาน ดังต่อไปนี้ (1) สำนักงานราชวิทยาลัย (2) วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ” มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ค วามต่อไปนี้แทน “ มาตรา 9 ส่วนงานตามมาตรา 8 ให้มีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) สานักงานราชวิทยาลัย มีหน้าที่บริหารจัดการกิจการทั่วไปของราชวิทยาลัย จัดทานโยบาย และแผนของราชวิทยาลัย ประสานงานกับส่วนงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการสนับสนุนกิจการ ของราชวิ ทยาลัย และดาเนินการตามที่เลขาธิการราชวิทยาลัยหรือสภาราชวิทยาลัยมอบหมาย (2) วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ มีหน้าที่จัดการศึกษาทางด้านแพทยศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ ทำการวิจัย และสนับสนุนให้ทำการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ในเรื่องดังกล่าว และให้บริการในการบาบัดรักษาผู้ป่วย (3) ส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น มีหน้าที่ตามที่กำหนดในประกาศของราชวิทยาลัย ตามมาตรา 8 วรรคสาม ” มาตรา 5 ให้ยกเลิกความใน (3) ของวรรคหนึ่งของมาตรา 19 แห่ งพระราชบัญญัติ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 3) กรรมการสภาราชวิทยาลัยโดยตาแหน่ง ได้แก่ หัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ” มาตรา 6 ใ ห้ยกเลิกความใน (10) ของมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 10) พิจารณาดาเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และพิจารณาถอดถอน นายกสภาราชวิทยาลัย กรรมการสภาราชวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ เลขาธิการราชวิทยาลัย หัวหน้าส่วนงาน ตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์พิเศษ ” ้ หนา 8 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

มาตรา 7 ให้ยกเลิกความใน (17) ของมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 17) ติดตามและประเมินผลการดาเนินงานของเลขาธิการราชวิทยาลัยและหัวหน้าส่วนงาน ตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ” มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 25 ให้มีคณะกรรมการบริหารราชวิทยาลัย ประกอบด้วย เลขาธิการราชวิทยาลัย เป็นประธาน รองเลขาธิการราชวิทยาลัย และหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง เป็นกรรมการ ให้ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยคนหนึ่งซึ่งเลขาธิการราชวิทยาลัยมอบหมายเป็นกรรมการ และเลขานุการ ” มาตรา 9 ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุ ฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 3) แต่งตั้งผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยและรองหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง หรือให้ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยหรือรองหัวหน้าส่วนงานดังกล่าวพ้นจากตาแหน่ง ” มาตรา 10 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 35 ในส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ให้มีหัวหน้าส่วนงานคนหนึ่ง เป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบงานของส่วนงานนั้น และจะให้มีรองหัวหน้าส่วนงานตามจานวน ที่สภาราชวิทยาลัยกำหนด เพื่อทำหน้าที่และรับผิดชอบตามที่หัวหน้าส่วนงำนมอบหมายก็ได้ ” มาตรา 11 ให้ยกเลิกความในมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 9 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

“ มาตรา 36 หัวหน้าส่วนงานและรองหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ต้องสาเร็จการศึกษาระดับปริญญาชั้นหนึ่งชั้นใดหรือเทียบเท่าจากราชวิทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น ที่สภาราชวิทยาลัยรับรอง และได้ทำการสอนหรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี ในราชวิ ทยาลัยหรือสถาบันอุดมศึกษาอื่นที่สภาราชวิทยาลัยรับรอง หรือมีประสบการณ์ด้านการบริหารอื่น ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับของราชวิทยาลัย นอกจากคุณสมบัติตามวรรคหนึ่ง หัวหน้าส่วนงานและรองหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ต้องมีคุณสมบัติอื่ นและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กาหนดในข้อบังคับของราชวิทยาลัย ” มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่ อไปนี้แทน “ มาตรา 37 ในส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง อาจให้มีคณะกรรมการ ประจำส่วนงาน เพื่อทำหน้าที่บริหารส่วนงานนั้นได้ ” มาตรา 13 ให้ยกเลิกความในมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 44 ให้สภาราชวิทยาลัยจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของเลขาธิการ ราชวิทยาลัย และหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) และวรรคสอง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับของราชวิทยาลัย ” มาตรา 14 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติราชวิทยาลัย จุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ เลขาธิการราชวิทยาลัยอาจแต่งตั้งผู้ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมและมิได้เป็นคณาจารย์ประจา ของราชวิทยาลัยเป็นอาจารย์พิเศษได้ โดยคาแนะนาของหัวหน้าส่วนงานตามมาตรา 8 (2) หรือวรรคสอง ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน ” มาตรา 15 ให้ โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 843 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จานวน 11 ไร่ 3 งาน 47 ตารางวา ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ในสังกัดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

ใช้บังคับ พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว ไปเป็นของมูลนิธิจุฬาภรณ์ โดยให้ได้รับยกเว้น ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน และให้ได้รับยกเว้นภาษี ธุรกิจเฉพาะและค่าอากรแสตมป์โดยให้ดาเนินการตามที่กาหนดในประมวลรัษฎากร มาตรา 16 ให้สานั กงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้คาแนะนามูลนิธิจุฬาภรณ์ในการเตรียมการยื่นคาขอรับใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เมื่อได้รับคาขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุ ดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมพิจารณาอนุญาตภายในสิบห้าวัน ในระหว่างการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามวรรคหนึ่ง ให้สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ในสังกัดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับปฏิบัติหน้าที่จัดการศึกษา ทำการวิจัย นำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ และให้บริการทางวิชาการ ต่อไปจนกว่าจะจัดตั้ง สถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแล้วเสร็จ มาตรา 17 เมื่อได้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามมาตรา 16 แล้ว ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ ภาระผูกพัน งบประมาณ และรายได้ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เฉพาะในส่วนที่ เกี่ยวกับกิจการของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ในสังกัดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปเป็น ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนดังกล่าว ทั้งนี้ ตามบัญชีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและน วัตกรรมกำหนด มาตรา 18 ให้พนักงานหรือลูกจ้างของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการ ของสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ในสังกัดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ ที่ประสงค์จะไปปฏิบัติงานกับสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่จัดตั้งขึ้ นตามมาตรา 16 มีหนังสือแสดงเจตนาต่อสถาบันอุดมศึกษาเอกชนดังกล่าวภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ มาตรา 19 ให้นักศึกษาซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาหลักสูตรบัณฑิตศึกษาของสถาบัน บัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ในสังกัดราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์อยู่ในวันก่อนวันที่มีการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 16 เป็นนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนดังกล่าว ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

มาตรา 20 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอานาจหน้าที่ของตน ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566

หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้ พระราช บัญญัติฉ บับนี้ คือ โดยที่ สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นส่วนงานภายในของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ดาเนินการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในสาขาซึ่งมีความจาเป็นในการพัฒนาประเทศ เพื่อสนองพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในการพัฒนาบุคลากร ที่มีความสามารถในการวิจัยเพื่อเป็นผู้นาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูงที่มีความสามารถระดับนานาชาติ สามารถสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมระดับแนวหน้า เน้นการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย โดยใช้ทรัพยากรและดาเนิ นการร่วมกับสถาบันวิจัยของมูลนิธิจุฬาภรณ์มาโดยตลอด จึงสมควรแยกสถาบัน บัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ออกจากการเป็นส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แล้วดำเนินการเพื่อจัดตั้ง เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกับ สถาบั นวิจัยของมูลนิธิจุฬาภรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัว และมีความเป็นอิสระทั้งทางวิชาการ และทางการบริหารงาน จึงจำเป็นต้องตราพระราช บัญญัติ นี้ ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 20 ก ราชกิจจานุเบกษา 19 มีนาคม 2566