ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565

ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ ในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565 โดยที่พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9 (5) กาหนดการออกเสียงประชามติกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ ในการออกเสียงประชามติ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกาหนด จึงสมควร ให้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565 ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 22 มาตรำ 37 และมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 9 (5) และ มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณ ะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565 ” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในประกาศนี้ “ การออกเสียง ” ห มายความว่า การออกเสียงประชามติ “ ผู้มีสิทธิเข้าชื่อ ” หมายความว่า ประชาชนที่เข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ ความ เห็นชอบในการออกเสียงประชามติตามมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 “ ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อ ” หมำยความว่า ผู้มีสิทธิเข้าชื่อซึ่งเป็นผู้ริเริ่มให้มีการเข้าชื่อเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ โดยมีหน้าที่ในการรวบรวมรายชื่อของ ผู้มีสิทธิเข้าชื่อ และทำหน้าที่ประสานงานในการเสนอชื่อต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ ในการออกเ สียงประชามติ “ สานักงาน ” หมายความว่า สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง “ สานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ” หมายความรวมถึงสานักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครด้วย ้ หนา 83 ่ เลม 140 ตอนที่ 2 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 มกราคม 2566

“ หน่วยงานของรัฐ ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือพระราชกฤษฎีกา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ข้อ 4 การเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงตามมาตรา 9 (5) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ต้องมีจานวนผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่น้อยกว่า ห้าหมื่นคน ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้าม และไม่ถูกจากัดสิทธิตาม มาตรา 20 มาตรา 21 และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ข้อ 5 การเสนอเรื่องการเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ให้จัดทำเป็นเอกสารและข้อมูล ตามแบบท้ายประกาศ ดังนี้ (1) หนังสือกรณีประชาชนเข้าชื่ อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ต้องมีเนื้อหาที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้ว่าประสงค์จะออกเสียงในเรื่องใดและเรื่องนั้นมิใช่เรื่อง ที่ต้องห้ามมิให้ออกเสียงตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ (2) รายชื่อผู้มีสิทธิเข้าชื่อตามข้อ 4 โดยมีรายล ะเอียดเกี่ยวกับเลขประจาตัวประชาชน ชื่อ ชื่อสกุล และลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเข้าชื่อทุกคน (3) ข้อมูลตาม (2) ให้จัดทำในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ใส่แผ่นบันทึกข้อมูล หรืออุปกรณ์ บันทึกข้อมูลแบบพกพา โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับเลขประจาตัวประชาชน ชื่อ ชื่อสกุ ล ของผู้มีสิทธิ เข้าชื่อทุกคน เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อยื่นเอกสารและ ข้อมูลด้วยตนเองต่อสำนักงาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ตามที่อยู่ ท้ายประกาศนี้ กรณียื่นเอกสารทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตาม (3) ให้จัดส่ง ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 6 เมื่อสำนักงานได้รับเอกสารและข้อมูลตามข้อ 5 ให้ตรวจสอบรายละเอียดในหนังสือ การเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบใ นการออกเสียงว่าถูกต้องตามแบบที่กาหนด หรือไม่ และตรวจสอบจำนวนผู้มีสิทธิเข้าชื่อว่าครบถ้วนหรือไม่ ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ ได้รับเอกสาร หากตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนให้แจ้งผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อทราบโดยเร็ว และดาเนินการตามข้อ 8 ต่อไป ในกรณีที่ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้แจ้งผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อ พร้อมทั้งส่งเรื่องคืนเพื่อดาเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนและยื่นต่อสานักงานตามวิธีการที่กาหนด ในข้อ 5 ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ ง เพื่อให้สำนักงานดาเนินการตามวรรคหนึ่ง แต่หากผู้แทนของ ผู้มีสิทธิเข้าชื่อดาเนินการไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวให้การเสนอเรื่องการเข้าชื่อเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงเป็นอันยุติในคราวนั้น ้ หนา 84 ่ เลม 140 ตอนที่ 2 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 มกราคม 2566

ในกรณีผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อยื่น เอกสารและข้อมูลตามข้อ 5 ต่อสานักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำจังหวัด ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจัดส่งเอกสารและข้อมูล ดังกล่าวให้สำนักงานดาเนินการตรวจสอบเบื้องต้นภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารและข้อมูล ข้อ 7 ผู้มีสิทธิเข้าชื่อมีสิ ทธิถอนการร่วมเข้าชื่อได้ภายในสิบวันนับแต่วันที่สำนักงานได้รับเอกสาร โดยให้ทำเป็นหนังสือซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับเลขประจำตัวประชาชน ชื่อ ชื่อสกุล และข้อความที่แสดง ให้เห็นว่าตนประสงค์จะถอนการร่วมเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมลงลายมือชื่อโดยให้ยื่นเอกสำร ด้วยตนเองต่อสานักงาน หรือสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด หรือทางไปรษณีย์ ลงทะเบียน หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ตามที่อยู่ท้ายประกาศนี้ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเข้าชื่อยื่นหนังสือถอนการร่วมเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ ความเห็นชอบในการออกเสียงต่อสานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจาจังหวัด ให้นาความในข้อ 6 วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 8 ให้สานักงานส่งเอกสารตามข้อ 6 วรรคหนึ่ง ให้สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณามอบหมายหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบ ในการออกเสียง ดาเนินการตรวจสอบการเข้าชื่อของผู้มีสิทธิเข้าชื่อว่ามีความถูกต้องครบถ้วนตามข้อ 4 หรือไม่ โดยอาจขอให้หน่วยงานของรัฐอื่นสนับสนุนและช่วยเหลือในการตรวจสอบได้ ในการตรวจสอบการเข้าชื่อตามวรรคหนึ่ง หากต รวจสอบแล้วพบว่าเลขประจาตัวประชาชน ของผู้มีสิทธิเข้าชื่อผู้ใดไม่ถูกต้อง ให้หักออก หากยังมีผู้มีสิทธิเข้าชื่อครบจานวนตามข้อ 4 ให้ดาเนินการ ตามข้อ 9 ต่อไป แต่หากผู้มีสิทธิเข้าชื่อไม่ครบจำนวนตามข้อ 4 ให้รายงานสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีเพื่อยุติการเสนอเรื่ องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง และให้แจ้ง ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อพร้อมทั้งส่งเรื่องคืนให้ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้าชื่อและแจ้งสำนักงานทราบ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิเข้าชื่อถอนการร่วมเข้าชื่อเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด หรือตรวจพบว่าผู้มีสิทธิ เข้าชื่อตายภายหลังจากที่ได้เข้าชื่อแล้ว ให้ถือว่าการร่วมเข้าชื่อของผู้นั้นยังคงมีผลอยู่ ข้อ 9 การเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรี ให้หน่วยงานของรัฐจัดทาความเห็นและวิเคราะห์ ผลกระทบในเรื่องที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ข้อ 10 ระยะเวลาในกำรตรวจสอบการเข้าชื่อ รูปแบบรายงานความเห็นและการวิเคราะห์ ผลกระทบในเรื่องที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียง ของหน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไปตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกาหนด ข้อ 11 ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยและคาวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ถือเป็นที่สุด ประกาศ ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 25 6 5 อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ้ หนา 85 ่ เลม 140 ตอนที่ 2 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 มกราคม 2566

หนังสือ กรณีประชาชน เข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ เขียนที่… วันที่… … … เรื่อง ขอให้ด ําเนินกํารเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ควํามเห็นชอบในกํารออกเสียงประชํามติ ในเรื่อง… … … เรียน เลขําธิกํารคณะกรรมกํารกํารเลือกตั้ง สิ่งที่ส่งมําด้วย 1. รํายชื่อของผู้เข้ําชื่อเสนอ ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ควํามเห็นชอบในกํารออกเสียงประชํามติ จ ํานวน … คน รวม … แผ่น 2. แผ่นบันทึกข้อมูล (แผ่น CD ) จํานวน … แผ่น / อุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบพกพํา ( USB Flash Drive ) จ ํานวน … อัน (กรณียื่นด้วยตนเอง/ส่งทํางไปรษณีย์ ลงทะเบียน) 3 . เอกสํารอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ํามี) รวม … แผ่น ด้วยข้ําพเจ้ํา นําย/นําง/นํางสําว/ยศ … … เลขประจ ําตัวประชําช น… … ที่อยู่ ที่สํามํารถติดต่อได้ … … … … โทรศัพท์ … ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E - mail ) … … … ซึ่งเป็นผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ มีควํามประสงค์จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ควํามเห็นชอบในกํารออกเสีย ง ปร ะชํามติ ในเรื่อง… … . … … . โดยมีรํายละเอียด ดังนี้ 1. ความเป็นมาของเรื่องที่จะเสนอ ( ระบุควํามเป็นมําของเรื่องเพื่อปูพื้นฐํานของเรื่องให้คณะรัฐมนตรีได้มีข้อมูลย้อนหลัง ประกอบกํารพิจํารณําตัดสินใจ ) 2. เหตุผลความจำเป็นที่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี ( ระบุเหตุผลควํามจ ําเป็น ประเด็นปัญหํา สําเหตุ ข้อกฎหมํายหรือมติคณะรัฐมนตรี ที่กําหนดให้ต้องน ําเรื่องเสนอเข้ําสู่กํารพิจํารณําของคณะรัฐมนตรี ) 3. ความเร่งด่วนของเรื่อง (ถ้ํามี) ( ระบุควํามเร่งด่วนของเรื่องที่เสนอ โดยเฉพําะกําหนดเวลําที่จะต้องดําเนินกํารในเรื่องต่ําง ๆ ที่เกี่ยวข้องและก ําหนดเวลําช้ําสุดที่คณะรัฐมนตรีจะต้องพิจํารณํามีมติเพื่อให้ทันกํารด ําเนินกํารในเรื่องนั้น ๆ ) 4. สาระสำคัญ ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย 4. 1 ( ระบุสําระข้อเท็จจริงของเรื่อง ) 4.2 ( ระบุรํายละเอียดขั้นตอนของกํารดําเนินกํารในเรื่องนั้น ๆ ว่ํา ได้ดําเนินกํารมําแล้ว อย่ํางไร และจะด ําเนินกํารต่อไปอย่ํางไร ส่วนรําชกํารที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมกํารเพื่อรองรับอย่ํางไร ระยะเวลําเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งจะต้องสนับสนุนในระยะใด ขั้นตอนใด ) 4.3 ( ระบุข้อกฎหมํายหรือมติคณะรัฐมนตรีที่ให้อํานําจส่วนรําชกํารด ําเนินกํารในเรื่องนั้น ๆ ) 5. รายงานการวิเคราะห์หรือศึกษาตามกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีหรือคำสั่งใด ๆ (ถ้ํามี) ( กรณีที่มีกฎหมําย มติคณะรัฐมนตรี หรือค ําสั่งใด ๆ ก ําหนดให้ต้องศึกษํา วิเครําะห์ในเรื่องนี้ ก่อนด ําเนินกําร ให้สรุปผลกํารศึกษําและเสนอรํายงํานกํารศึกษํามําด้วย )

6. ผลกระทบ ( ระบุผลกระทบของเรื่องที่มีต่อสภําวะทํางเศรษฐกิจ สังคม กํารเมือง หรือด้ํานอื่น ๆ ) 7. ค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มา (ถ้ํามี) (ร ะบุจ ํานวนเงินและแหล่งที่มําของเงินที่ต้องกํารใช้ในเรื่องนี้ ส ําหรับกรณีขอใช้ งบประมําณแผ่นดิน ให้ระบุหมวดของงบประมําณที่เสนอขอมําให้ชัดเจน ) 8 . หน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้อง 8 .1 (ระบุชื่อหน่วยงํานของรัฐ) 8 .2 (ระบุชื่อหน่วยงํานของรัฐ) ฯลฯ โดยข้ําพเจ้ําในฐํานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้แจ้งวัตถุประสงค์กับเจ้ําของข้อมูลส่วนบุคคล ในกํารเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ในกํารเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ควํามเห็นชอบ ในกํารออกเสียงประชํามติ ซึ่งเจ้ําของข้อมูลได้ให้ควํามยินยอม จึงได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่ําว ตาม กฎหมาย ว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ รวมถึงกฎหมําย คุ้มครอง ข้อมูล ส่วนบุคคล และขอรับรองว่ําผู้มีสิทธิเข้ําชื่อเป็นผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้ําม และไม่ถูกจํากัดสิทธิ ตํามมําตรํา 20 มําตรํา 21 และมําตรํา 24 แห่งพระรําชบัญญัติว่ําด้วยกํารออกเสียงประชํามติ พ.ศ. 2564 จึงเรียนมําเพื่อโปรดพิจํารณําด ําเนินกํารต่อไป ขอแสดงควํามนับถือ (ลงชื่อ)… … (…) ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ

รายชื่อ ผู้มีสิทธิเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ เรื่อง … ด้วยข้ําพเจ้ํา นําย/นําง/นํางสําว/ยศ (ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ) ซึ่ง เป็นผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ พร้อมด้วยผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ จํานวน … คน มีควํามประสงค์ เสนอต่อ คณะรัฐมนตรี เพื่อให้ ควํามเห็นชอบ ในกํารออกเสียงประชํามติในเรื่อง… … … … … โดยมีรํายชื่อดังต่อไปนี้ ลำดับ ที่ เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ – สกุล ลายมือชื่อ ผู้ มีสิทธิเข้าชื่อ (แผ่น ที่… / …)

หมํายเหตุ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อมีดังต่อไปนี้ 1.1 มีสัญชําติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชําติไทยโดยกํารแปลงสัญชําติ ต้องได้สัญชําติไทยมําแล้วไม่น้อยกว่ํา 5 ปี 1.2 มีอํายุไม่ต่ ํากว่ํา 18 ปีในวันออกเสียง 1.3 มี ชื่ออยู่ในทะเบียนบ้ํานในเขตออกเสียงมําแล้วเป็นเวลําไม่น้อยกว่ํา 90 วันนับถึงวันออกเสียง 2. ลั กษณะต้องห้ํามของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อมีดังต่อไปนี้ 2.1 เป็นภิกษุ สํามเณร นักพรต หรือนักบวช 2.2 อยู่ในระหว่ํางถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่ําคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ 2.3 ต้องคุมขังอยู่โดยหมํายของศําลหรือโดยค ําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมําย 2.4 วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 3. ผู้มีสิทธิ เข้ําชื่อต้องไม่เป็นผู้ถูกจํากัดสิทธิตํามพระรําชบัญญัติว่ําด้วยกํารออกเสียงประชํามติ พ.ศ. 2564 พร้อมนี้ ได้จัดส่ง แผ่นบันทึกข้อมูล (แผ่น CD ) จํานวน … แผ่น /อุปกรณ์บันทึกข้อมูล แบบพกพํา ( USB Flash Drive ) จํานวน … อัน หรือจัดส่งทํางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง มีข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วนตํามรํายกํารข้ํางต้นมําด้วยแล้ว ข้ําพเจ้ําและผู้มีสิทธิเข้ําชื่อข้ํางต้นยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ดังกล่ําว ตํามกฎหมํายว่ําด้วยข้อมูลข่ําวสํารของรําชกําร รวมถึงกฎหมําย คุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล และขอรับรองว่ําผู้มีสิทธิ เข้ําชื่อเป็นผู้มีคุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้ําม และไม่ถูกจํากัดสิทธิตํามมําตรํา 20 มําตรํา 21 และมําตรํา 24 แห่งพระรําชบัญญัติว่ําด้วยกํารออกเสียงประชํามติ พ.ศ. 2564 และข้อมูลดังกล่ําวเป็นควํามจริงทุกประกําร (ลงชื่อ)… … (… …) ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ

รายชื่อ ผู้มีสิทธิเข้าชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ เรื่อง … ข้ําพเจ้ํา (ผู้แทนของผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ) ขอรับรองว่ํา เลขประจําตัวประชําชนและ รํายชื่อในเอกสํารนี้ ตรงกับ รํายชื่อ ผู้มีสิทธิเข้ําชื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ควํามเห็นชอบในกํารออกเสียงประชํามติ ที่ให้ผู้มีสิทธิเข้ําชื่อ ลงลํายมือชื่อทุกประกําร ลำดับ ที่ เลขประจำตัวประชาชน ชื่อ – สกุล (แผ่น ที่… / …) หมํายเหตุ 1. ให้จัดทําข้อมูลโดยใช้ Text File หรือ Ex c el File 2. ข้อมูลนี้ให้บันทึกลงใน แผ่นบันทึกข้อมูล (แผ่น CD ) / อุปกรณ์บันทึกข้อมูลแบบพกพํา ( USB Flash Drive ) 3. ก รณี ยื่นเอกสําร ทํางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ให้จัดส่งข้อมูลนี้ทํางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์

ที่อยู่ในการจัดส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนและ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ในการจัดส่ง เอกสาร ตามข้อ 5 ของประกาศนี้ ส ํานักงํานคณะกรรมกํารกํารเลือกตั้ง เลขที่ 120 ห มู่ ที่ 3 ชั้น 2 อําคํารรัฐประศําสนภักดี ศูนย์รําชกํารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษํา 5 ธันวําคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพ มหํานคร รหัสไปรษณีย์ 10210 E - mail : Saraban@ect . go . th