ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยลูกจ้างสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2566

ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยลูกจ้างสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกาหนดให้มีระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้าง สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ อาศัยอานาจตามความในมาตรา 49 (2) (3) (5) (7) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 คณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้าง สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิ จจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิก (1) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 (2) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 (3) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 (4) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565 (5) ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วยลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2565 ข้อ 4 ในระเบียบนี้ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “ เลขาธิการ ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ง ชาติ “ สำนักงาน ” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ “ ลูกจ้าง ” หมายความว่า บุคลากรประเภทที่ได้รับการจ้างจากเงินงบประมาณรายจ่าย ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติงานที่มีลักษณะเป็นการชั่วคราว เป็นรายเดือนและมีกาหนดเวลา จ้าง แต่ทั้งนี้ ระยะเวลาการจ้างต้องไม่เกินปีงบประมาณ ข้อ 5 ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรักษาการตามระเบียบนี้ ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 มีนาคม 2566

ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด หมวด 1 บททั่วไป ข้อ 6 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) การบริหารงานบุคคลที่เกี่ยวกับลูกจ้าง (2) กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาหรือคัดเลือกบุคคลเพื่อจ้างเป็นลูกจ้าง โดยคานึงถึง หลักความเสมอภาค ความหลากหลายทางภาษา ศาสนา ชาติพันธุ์ ความสามารถ ความเป็นธรรม และปร ะโยชน์ของทางราชการ (3) แต่งตั้งคณะทำงานหรือบุคคลเพื่อทำการใด ๆ อันอยู่ในหน้าที่และอำนาจ (4) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายหรือระเบียบกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ คณะกรรมการ ข้อ 7 การใดที่มิได้กาหนดไว้ในระเบียบนี้ ให้นาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อ บังคับ ประกาศหรือหลักเกณฑ์ของทางราชการที่ใช้บังคับกับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการมาใช้ บังคับกับลูกจ้างโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ หมวด 2 ลูกจ้างของสำนักงาน ข้อ 8 สานักงานจะมีลูกจ้างตาแหน่งใด จานวนเท่าใด และจะต้องใช้คุณสมบัติเฉพาะ ตาแหน่งใด ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกาหนด โดยคานึงถึงประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า ความคล่องตัว ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ ปริมาณและคุณภาพของงาน ข้อ 9 ผู้ที่จะได้รับการจ้างเป็นลูกจ้างต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ (1) มีสัญชาติไทย (2) มีอายุไม่ต่ากว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์ (3) ไม่เป็นกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง (4) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตาแหน่งหรือเงินเดือนประจา พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้ำหน้าที่อื่นของรัฐ (5) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (6) ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดแจ้ง ้ หนา 22 ่ เลม 140 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 มีนาคม 2566

(7) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือสติฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีร่างกายหรือจิตใจ ไม่เหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ (8) ไม่เป็ นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักงาน ถูกสั่งพักราชการ หรือถูกสั่งให้หยุดงานเป็นการชั่วคราว ในลักษณะเดียวกับพักงานหรือพักราชการ (9) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานอื่นของรัฐ เพราะกระทำผิดวินัย (10) ไม่เป็นผู้ เคยถูกสั่งให้ออกจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน กรณีหย่อนความสามารถ บกพร่องในหน้าที่หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม หรือกรณีมีมลทิน หรือ มัวหมองในกรณีที่ถูกสอบสวน ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของสำนักงาน อาจจ้างลูกจ้างที่ขาดคุ ณสมบัติ ตาม (1) หรือ (2) ได้ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ หมวด 3 การจ้าง การแต่งตั้ง และการจัดทาและรักษาทะเบียนประวัติ ข้อ 10 การจ้างและแต่งตั้งบุคคลเป็นลูกจ้าง ให้ดำเนินการจ้างและแต่งตั้งจากผู้ที่ผ่าน กระบวนการสรรหาหรือคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกาหนด ให้ตรวจสอบประวัติบุคคลที่ได้รับการจ้างเป็นลูกจ้างตามที่สำนักงานกำหนด ข้อ 11 ให้เลขาธิการเป็นผู้มีอำนาจสั่งจ้างและแต่งตั้งลูกจ้างทุกตาแหน่ง การต่อสัญ ญาจ้างบุคคลเป็นลูกจ้างและการเลื่อนค่าจ้างให้คานึงถึงประโยชน์ทางราชการ และดาเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกาหนด ข้อ 12 ให้สำนักงานออกบัตรประจำตัวให้กับลูกจ้างตามแบบที่สำนักงานกำหนด ข้อ 13 ให้สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการจัดทำและรักษาทะ เบียนประวัติ ของลูกจ้าง หมวด 4 วันเวลาทำงาน และการลาหยุดงาน ข้อ 14 วันทางาน วันหยุดราชการตามประเพณีและวันหยุดราชการประจาปีของลูกจ้าง ให้เป็นไปตามประกาศและมติของคณะกรรมการที่กำหนดไว้สำหรับข้าราชการสำนักงาน ให้นาหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการลาของข้า ราชการสำนักงานตามระเบียบคณะกรรมการ ว่าด้วยการนั้น มาใช้บังคับกับการลาหยุดงานของลูกจ้างด้วยโดยอนุโลม ้ หนา 23 ่ เลม 140 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 มีนาคม 2566

หมวด 5 ค่าจ้าง ค่าตอบแทนเป็นรายเดือน ประโยชน์ตอบแทนอื่น สวัสดิการและการสงเคราะห์อื่น ข้อ 15 การให้ได้รับค่าจ้าง สวัสดิการและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลของลูกจ้าง ให้เป็นดังเช่น ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ เว้นแต่คณะกรรมการจะกำหนดเป็นอย่างอื่น อัตราค่าจ้างของลูกจ้าง ให้เป็นไปตามบัญชีแนบท้ายระเบียบนี้ ให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วย การประกันสังคม ให้เลขาธิการเป็นผู้มีอานาจสั่งเลื่อนค่าจ้างลูกจ้างตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ กำหนด ข้อ 16 ให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าตอบแทนพิเศษเป็นรายเดือนจากเงินงบประมาณรายจ่าย ของสานักงาน ตามบัญชีแนบท้ายระเบียบนี้ โดยให้เบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน พิเศษของลูกจ้างควบกับ เงินค่าจ้าง ให้นาหลักเกณฑ์และวิธีการได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามที่กาหนดไว้ในระเบียบคณะกรรมการ ว่าด้วยเงินค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการสานักงาน มาใช้บังคับกับการได้รับค่าตอบแทนพิเศษ ตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม หมวด 6 เครื่องแบบและการแต่งเครื่ องแบบ ข้อ 17 เครื่องแบบและการแต่งเครื่องแบบของลูกจ้าง ให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการ ว่าด้วยการนั้น หมวด 7 วินัย การสอบสวน และการลงโทษทางวินัย ข้อ 18 ให้นาระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยลูกจ้างประจาของส่วนราชการเกี่ยวกับวินัย การรักษาวินัย และการดาเนินการทางวินัยของลูกจ้าง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ข้อ 19 ลูกจ้างต้องปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกาหนด นโยบาย ประกาศ คาสั่ง มติคณะกรรมการ และแบบธรรมเนียมของสำนักงาน ข้อ 20 ลูกจ้างผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงด้วย (1) ละทิ้งหน้าที่หรือขาดงานติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่าเจ็ดวัน (2) ทุจริตต่อหน้าที่ (3) กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่รา ชการอย่างร้ายแรง ้ หนา 24 ่ เลม 140 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 มีนาคม 2566

(4) ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ อันเป็นเหตุให้เกิด ความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หมวด 8 การออกจากงาน และการอุทธรณ์การลงโทษ ข้อ 21 สัญญาจ้างลูกจ้างสิ้นสุดเมื่อ (1) ตาย (2) ลาออก (3) ครบกำหนดตามสัญญาจ้างหรือสำนักงานไม่ต่อสัญญาจ้าง (4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 9 แล้วแต่กรณี เว้นแต่กรณีได้รับ การยกเว้นตามข้อ 9 วรรคสอง (5) ถูกลงโทษในกรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้เลขาธิการมีอานาจสั่งให้ออก ไล่ออกหรืออนุญาตให้ลาออกตาม หลักเกณฑ์และวิธีการ ที่สำนักงานกำหนด ข้อ 22 การอุทธรณ์การลงโทษ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง บทเฉพาะกาล ข้อ 23 ให้ลูกจ้างที่ได้รับการจ้างตามระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าด้วย ลูกจ้างสานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นลูกจ้าง ตามระเบียบนี้ต่อไป และให้เปลี่ยนชื่อตาแหน่งตาม หลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการกาหนด โดยระยะเวลาการจ้าง ให้ถือตามสัญญาจ้างที่ได้จัดทาก่อนระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ และให้ได้รับค่าจ้าง ค่าตอบแทนพิเศษ และประโยชน์ตอบแทนอื่นต่อไปตามระเบียบนี้ ข้อ 24 บรรดาประกาศ คาสั่ง มติ หลักเกณฑ์และการอื่นใดที่ออกตามระเบียบคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่ำด้วยลูกจ้างสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้มีผลใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดต่อระเบียบนี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีประกาศ คาสั่งหรือมติตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25 6 6 พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ้ หนา 25 ่ เลม 140 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 3 มีนาคม 2566

บัญชี อัตราค่าจ้างขั้นต ่าขั้นสูงของลูกจ้าง ส่านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ล่าดับที ชื อต่าแหน่ง อัตราค่าจ้าง (บาท) ขั้นต ่า ขั้นสูง 1 เจ้าหน้าที่ ทั่วไป 10 , 50 0 1 7 , 88 0 2 เจ้าหน้าที่ บริการ 10 , 50 0 1 7 , 88 0 3 เจ้าหน้าที่ รับโทรศัพท์ 10 , 50 0 1 7 , 88 0 4 เจ้าหน้าที่ ขับรถยนต์ 11,500 2 5 , 67 0 5 เจ้าหน้าที่ เทคนิค 11,500 2 5 , 67 0 6 เจ้าหน้าที่ จัดการงาน ทั่วไป 15,000 34 , 11 0 7 เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 15,000 34 , 11 0 8 เจ้าหน้าที่พัสดุ 15,000 34 , 11 0 9 เจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชน 15,000 34 , 11 0 10 เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา 15,000 34 , 11 0 11 เจ้าหน้าที่นิติกร 15,000 34 , 11 0 12 เจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศ 15,000 34 , 11 0 13 เจ้าหน้าที่บรรณารักษ์ 15,000 34 , 11 0 14 เจ้าหน้าที่จดหมายเหตุ 15,000 34 , 11 0 15 เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ 15,000 34 , 11 0

2 บัญชี อัตรา ค่าตอบแทนพิเศษ ของลูกจ้าง ส่านักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ระยะเวลา อัตรา (บาท/เดือน) ได้รับการจ้างและแต่งตั้ง 3,500 ปฏิบัติงานครบ 3 ปี 4,500 ปฏิบัติงานครบ 6 ปี 5,500 ปฏิบัติงานครบ 10 ปี 6,500