กฎกระทรวงการตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สิน การยื่นคำร้องขอผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน พ.ศ. 2566
กฎกระทรวงการตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สิน การยื่นคำร้องขอผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน พ.ศ. 2566
กฎ กระทรวง การตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สิน การยื่นคำร้องขอผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน พ.ศ. 2566 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 24 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมาย ยาเสพติด พ.ศ. 2564 ประกอบกับมาตรา 71 วรรคสาม มาตรา 73 วรรคสี่ มาตรา 74 วรรคสอง และมาตรา 82 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 2 ให้ยกเลิก (1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 (2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 (3) กฎกระทรวง ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 (4) กฎกระทรวง ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ข้อ 3 ในกฎกระทร วงนี้ “ คณะกรรมการ ” หมายความว่า คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หมวด 1 การตรวจสอบทรัพย์สินและการแจ้งผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ้ หนา 9 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
ข้อ 4 เมื่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น ทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่ องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว ให้รายงานมายังเลขาธิการ ป.ป.ส. ภายใน เจ็ดวันนับแต่วันที่ยึดหรืออายัด พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับข้อเท็จจริง รายละเอียดหรือพฤติการณ์ ในการกระทาความผิด และข้อมูลทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรสงสัย เพื่อประกอบการพิจาร ณามีคาสั่ง ตรวจสอบทรัพย์สินและมอบหมายให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินหรือยุติ การตรวจสอบทรัพย์สิน ในการจัดทารายงานเพื่อเสนอตรวจสอบทรัพย์สินหรือยุติการตรวจสอบทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาชีพ รำยได้ หรือการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่จะยึด หรืออายัด โดยจะตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือมีหนังสือแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องหรือผู้อาจอ้าง สิทธิในทรัพย์สินติดต่อสานักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคตามแต่พื้นที่ เพื่อชี้แจงพร้อมทั้ง นำหลักฐานมาแสดงว่าทรัพย์สินนั้นไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด หรือเจ้าของทรัพย์สินได้รับโอนทรัพย์สินนั้นมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือได้มาตามสมควร ในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณะ ต่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ก็ได้ ข้อ 5 กำรดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินตามกฎกระทรวงนี้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายจะต้องดาเนินการภายใต้การกากับดูแลของคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ที่คณะกรรมการแต่งตั้ง ข้อ 6 เมื่อได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาในคดีความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเ สพติด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดำเนินการ ดังต่อไปนี้ (1) รวบรวมข้อมูลจากเอกสารหรือหลักฐานที่ได้รับจากการรายงานการจับกุมตามกฎหมาย ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดียาเสพติดหรือจากรายงานที่ได้รับจากการสืบสวนในทางอื่น เพื่อให้ทราบถึง พฤติการณ์การกระทำควา มผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และทรัพย์สินที่ได้มาหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับ การกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (2) ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดว่า ผู้ต้องหาเริ่มมีพฤติการณ์ตั้งแต่เมื่อใด มีรายได้จา กการกระทาความผิดประมาณเท่าใด ทรัพย์สินนั้น เป็นของผู้ใด ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้ทรัพย์สินนั้นมาโดยวิธีใด เมื่อใด มีหลักฐานการได้มาอย่างไร และมีราคาโดยประมาณเท่าใด ทั้งทรัพย์สินที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิด ร้ายแรงเกี่ยวกับยาเ สพติดและทรัพย์สินที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด (3) จัดทำรายละเอียดแสดงรายการทรัพย์สินที่ตรวจสอบ รวมทั้งรายละเอียดที่ได้จาก การตรวจสอบลงไว้ในสารบบคดีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตรวจสอบตามแบบที่สานักงาน ป.ป.ส. กำหนด ข้อ 7 เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูลและการจัดทารายงานตามข้อ 6 ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดำเนินการ ดังต่อไปนี้ ้ หนา 10 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
(1) ในกรณีที่เป็นการตรวจสอบอสังหาริมทรัพย์ อาจขอความร่วมมือไปยังเจ้าพนักงานที่ดิน หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจหน้าที่ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดาเนินการตรวจสอบให้ก็ได้ (2) ในกรณีที่เป็นการตรวจสอบสังหาริมทรัพย์ (ก) สังหาริมทรัพย์ที่ต้องมีทะเบียนตามกฎหมาย อาจขอความร่วมมือไปยังนายทะเบียน หรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจหน้าที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอให้ดาเนินการ ตรวจสอบให้ก็ได้ (ข) สังหาริมทรัพย์อื่น หากเห็นว่าบุคคลใดมีข้อมูลเอกสาร หรือพยานหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์นั้น อาจขอให้บุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคา หรือให้แจ้งข้อมูล หรือให้ส่งเอกสาร หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์นั้น (3) การตรวจสอบการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สิน ให้ตรวจสอบจาก การจดทะเบี ยนที่ได้กระทาภายในระยะเวลาสิบปีก่อนวันที่ผู้ต้องหานั้นถูกจับกุมหรือได้รับการแจ้งข้อกล่าวหา และที่ได้กระทำภายหลังวันดังกล่าวด้วย (4) การตรวจสอบทรัพย์สินประเภทเงินฝากธนาคารหรือเงินฝากในสถาบันการเงิน หรือ นิติกรรมหรือธุรกรรมอื่น ๆ ที่กระทำโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน อันเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบ ทรัพย์สิน อาจขอความร่วมมือจากสานักงานใหญ่ของธนาคารหรือสถาบันการเงินนั้น เพื่อขอเอกสาร หรือหลักฐานเงินฝากหรือนิติกรรมหรือธุรกรรมอื่น ๆ ที่มีหรือเคยมีชื่อของผู้ถูกตรวจสอบ บุคคล ในครอบครัว รวมทั้งที่ใช้นามอื่นซึ่งผู้ถูกตรวจสอบมีอำนาจสั่งจ่ายหรือมีอำนาจสั่งจ่ายร่วมกับบุคคลอื่นได้ (5) การตรวจสอบทรัพย์สินประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล อาจขอความร่วมมือศูนย์ซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล หรือกิจการอย่างอื่ นที่เกี่ยวกับ สินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อขอเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบ หรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีความประสงค์ที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มา ซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใด หรือแลกเปลี่ ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลหรือหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ อื่นใดตามที่คณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกาหนด รวมทั้งหน่วยข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกาหนดสิทธิ ของบุคคลในการเข้าร่ว มลงทุนในโครงการหรือกิจการใด ๆ หรือกาหนดสิทธิในการได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจงตามที่กาหนดในข้อตกลงระหว่างผู้ออกและผู้ถือ หรือหน่วยที่ แสดงสิทธิอื่นตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกาหนด (6) การตรวจสอบทรัพย์สิน ประเภทหลักทรัพย์ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตร ตั๋วเงิน หุ้น หุ้นกู้ หน่วยลงทุนอันได้แก่ ตราสารหรือหลักฐานแสดงสิทธิในทรัพย์สินของกองทุนรวม ใบสาคัญแสดง สิทธิที่จะซื้อหุ้น ใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นกู้ ใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุน ตราสารอื่ นใด ที่คณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกาหนด อาจขอความร่วมมือไปยัง ้ หนา 11 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
คณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือหน่วยงานที่กากับดูแลธุรกิจหลักทรัพย์ได้ เพื่อให้ทราบถึงการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การเป็นที่ปรึกษาการ ลงทุน การจัดจาหน่ายหลักทรัพย์ การจัดการกองทุนรวม การจัดการกองทุนส่วนบุคคล หรือกิจการอื่น ที่เกี่ยวกับหลักทรัพย์ (7) การตรวจสอบทรัพย์สินประเภทประกันภัย หากผู้ถูกตรวจสอบมีกรมธรรม์ประกันชีวิตอยู่ ให้ตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลการชาระเบี้ยประกัน สถานะกรมธรรม์ หรือความผิดปกติใน การชำระเบี้ยประกัน เพื่อทำการไถ่ถอนหรือเวนคืนกรมธรรม์ (8) การตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหรือผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งถูกจัดเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลขององค์กรกลาง ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อ หรือบริษัทข้อมูลเครดิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจ ข้อมูลเครดิต เพื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชาระหนี้ของบุคคลหรือนิติบุคคล ข้อมูลที่บ่งชี้ ถึงตัวต นลูกค้า และข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติ รวมทั้งประวัติการชำระสินเชื่อ ประวัติ การชำระราคาสินค้าหรือบริการโดยบัตรเครดิต และสถานะบัญชี (9) การตรวจสอบทรัพย์สินหรือพยานหลักฐานอื่น ๆ ให้ตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการกาหนด ข้อ 8 การตรวจสอบทรั พย์สินเพื่อประโยชน์ในการขอให้ศาลสั่งริบมูลค่าของทรัพย์สิน เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายต้องตรวจสอบเพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริง ดังต่อไปนี้ (1) พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดของผู้ถูกตรวจสอบ (2) ทรัพย์สินของผู้ถูกตรวจสอบที่มีหรือเคยมี รวมทั้งทรัพย์สินที่มีหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า เป็นทรัพย์สินของผู้ถูกตรวจสอบที่ได้โอนให้กับบุคคลอื่นหรือให้บุคคลอื่นถือกรรมสิทธิ์แทน (3) หนี้สินของผู้ถูกตรวจสอบ (4) รายจ่ายของผู้ถูกตรวจสอบ (5) การประกอบอาชีพหรือกิ จกรรมอื่นใดที่แสดงให้เห็นถึงรายได้ของผู้ถูกตรวจสอบ การคานวณมูลค่าของทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้วิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายเงิน เปรียบเทียบ กับรายได้โดยสุจริตของผู้ถูกตรวจสอบตั้งแต่เริ่มมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดร้ายแรง เกี่ยวกับยาเสพติดจนกระทั่งต กเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว โดยใช้มูลค่า ณ วันที่ได้ทรัพย์สินมาเป็น เกณฑ์ในการคานวณ ทั้งนี้ รายละเอียดให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกาหนด ข้อ 9 ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบทรัพย์สินหรือมีเหตุ อันสมควรเชื่อว่าทรัพย์สินที่ตรวจสอบอาจถูก โอน ยักย้าย หรือซุกซ่อน เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับ มอบหมายอาจร้องขอให้คณะกรรมการมีคาสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นไว้ชั่วคราวก่อนได้ หรืออาจร้อง ขอให้ประธานกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ประธานอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้เจ้ำพนักงาน ป.ป.ส. เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ หรือยานพาหนะใดที่มีเหตุ ้ หนา 12 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
อันควรสงสัยว่ามีการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดหรือมีทรัพย์สินซุกซ่อนอยู่ เพื่อทา การตรวจค้นหรือตรวจสอบ ยึด หรืออายัดทรัพย์สินได้ ข้อ 10 ในการดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินใด ให้เจ้ำพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมาย มีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกตรวจสอบทราบเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้น ไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานของทางราชการหรือหลักฐานอื่นว่าทรัพย์สินที่ตรวจสอบ เป็นของ บุคคลอื่น หรือในกรณีที่บุคคลอื่นอาจอ้างตัวเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นได้ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายมีหนังสือแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงการตรวจสอบทรัพย์สินนั้น ในกรณีที่ไม่สามารถแจ้งบุคคลดังกล่าวหรือไม่ทราบว่าเป็นทรัพย์สินของบุคคลใด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายปิดประกาศแจ้งการตรวจสอบทรัพย์สินนั้นไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทำการของสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ แห่งท้องที่ที่ตรวจสอบพบทรัพย์สินนั้นเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน และ ประกาศทางเว็บไซต์ ของสานักงาน ป.ป.ส. หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาธารณะอื่นใดเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน ทั้งนี้ หากเป็นอสังหาริมทรัพย์ ให้ปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานที่ดินแห่งท้องที่ที่อสังหาริมทรัพย์นั้นตั้งอยู่และ บริเวณที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย หนังสือแจ้งตามวรรคหนึ่งและวรรคสองและประกาศตามวรรคสามต้องระบุรายละเอียด ของทรัพย์สินให้ชัดเจนเพียงพอถึงประเภท ชนิด ลักษณะ ขนาด หรือจานวน และท้องที่ที่ตรวจสอบพบ หรือที่เป็นที่ตั้งของทรัพย์สินนั้น ข้อ 11 ในระหว่างที่เลขาธิการ ป.ป.ส. หรือคณะกรรมการยังไม่มีคำสั่งยึดหรือ อายัดทรัพย์สินใด ผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นอาจขอรับทรัพย์สินคืนได้ในวันและเวลาทาการ ณ ที่ทาการของสานักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาค แล้วแต่กรณี โดยนาพยานหลักฐาน ไปแสดงว่าทรัพย์สินนั้นไม่เกี่ยวเนื่ องกับการกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด หรือเจ้าของ ทรัพย์สินได้รับโอนทรัพย์สินนั้นมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทน หรือได้มาตามสมควรในทางศีลธรรมอันดี หรือในทางกุศลสาธารณะ เมื่อมีผู้ขอรับทรัพย์สินคืนตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. บันทึกปากคำของผู้ ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สินและรายละเอียดแห่งพยานหลักฐานนั้นไว้เพื่อประกอบการพิจารณา ของเลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะกรรมการต่อไป ข้อ 12 เมื่อได้ดาเนินการตรวจสอบทรัพย์สินและแจ้งผู้ถูกตรวจสอบ หรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็น เจ้าของทรัพย์สินตามความในหมวดนี้เสร็จแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายรายงานผล การดาเนินการพร้อมด้วยสารบบคดีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตรวจสอบต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อเลขาธิการ ป.ป.ส. จะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ้ หนา 13 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
หมวด 2 การยื่นคำร้องขอผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์ สินไปใช้ประโยชน์ ข้อ 13 ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราวตามคาสั่งของคณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. นั้น ผู้ถูกตรวจสอบทรัพย์สินหรือผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินอาจยื่นคาร้องขอผ่อนผัน ต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อขอรับทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ประ โยชน์ในเวลาใด ๆ ก็ได้ ก่อนที่คณะกรรมการ จะมีคาสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น โดยให้แสดงเหตุผล ความจาเป็น และความเร่งด่วนในการนา ทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งกาหนดเวลาที่จะนาทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์และผู้ซึ่งจะเป็นผู้ใช้ ประโยชน์จากทรัพย์สินนั้น และในกรณีที่ผู้ยื่นคาร้องเป็นผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ให้แสดง หลักฐานแห่งการเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นด้วย คำร้องตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด ข้อ 14 การอนุญาตให้นาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์อย่างน้อยต้องพิจารณาจากหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) เหตุผล ความจำเป็น และควำมเร่งด่วนในการนาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ (2) ความน่าเชื่อถือของผู้ที่จะนำทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์ (3) ประเภทและมูลค่าของทรัพย์สินและลักษณะของการนำทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ว่า จะมีความเสี่ยงภัยหรือเสี่ยงต่อความเสียหายหรือไม่เพียงใด (4) ระยะเวลาที่จะนาทรั พย์สินไปใช้ประโยชน์ การพิจารณาเหตุผลและความจาเป็นตาม (1) ให้พิจารณาถึงเหตุผลและความจาเป็นใน การดารงชีพ การประกอบสัมมาชีพ หรือการพิสูจน์การได้มาซึ่งทรัพย์สิน ข้อ 15 คณะกรรมการจะอนุญาตให้ผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สิน นำทรัพย์สินนั้ นไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกันและหลักประกันก็ได้ แต่การจะอนุญาตให้บุคคลอื่นนอกจากบุคคลดังกล่าวนำทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์ ให้กระทำ โดยมีหลักประกัน ในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ป.ป.ส. อาจอนุญาตให้นาทรัพย์สินนั้นไปใช้ ประโยชน์ก่อนโดยมีหลักประกัน แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการ จะเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิกถอนการอนุญาตเสียก็ได้ การอนุญาตตามวรรคหนึ่งและวรรคสองจะกระทำโดยกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ด้วยก็ได้ ข้อ 16 การผ่อนผันให้นาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีประกันนั้น เมื่อผู้ได้รับอนุญาต ได้ทำสัญญารับมอบทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์แล้ว ให้ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ได้รับอนุญาต ้ หนา 14 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
การผ่อนผันให้นำทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์โดยมีหลักประกันนั้น เมื่อผู้ได้รับอนุญาตได้ทำสัญญา รับ มอบทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์พร้อมทั้งส่งมอบหลักประกันแก่สำนักงาน ป.ป.ส. แล้ว ให้ส่งมอบทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ได้รับอนุญาต สัญญาตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามแบบที่สานักงาน ป.ป.ส. กาหนด ซึ่งอย่างน้อย ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ได้รับอนุญาต กำหนด เวลาที่อนุญาต และข้อความยินยอมชดใช้ ค่าเสียหายตามจำนวนหรืออัตราที่กาหนดในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นชำรุดบกพร่องหรือสูญหาย ข้อ 17 หลักประกันอาจใช้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ดังต่อไปนี้ (1) เงินสด (2) พันธบัตรรัฐบาลไทย (3) เช็คธนาคารหรือดร๊าฟที่อาจขึ้น เงินได้ในวันส่งมอบเป็นหลักประกัน (4) หุ้นหรือหุ้นกู้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น (5) อสังหาริมทรัพย์ (6) บุคคลอื่นโดยมีหลักประกันตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) มอบเป็นหลักประกัน (7) หลักทรัพย์อื่นที่คณะกรรมการเห็นสมควรให้รับเป็นหลักประกันได้ ข้อ 18 ในกรณีที่คณะกรรมการมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ได้มีการอนุญาต ให้นาไปใช้ประโยชน์ ให้ถือว่าคาสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นมีผลเป็นการเพิกถอนการอนุญาตให้นา ทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ประโยช น์ ข้อ 19 ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด หรือการนำ ทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์ไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต คณะกรรมการอาจมีคาสั่งเพิกถอนการอนุญาต ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือจะกาหนดเงื่อนไขใด ๆ เพิ่มเติมก็ได้ ในกรณีที่เห็นสมควร คณ ะกรรมการอาจมีคาสั่งให้มีการวางหลักประกันเพิ่มขึ้น หรือมูลค่า สูงกว่าเดิมภายในเวลาที่กำหนดก็ได้ ในกรณีที่มีความจาเป็นเร่งด่วน เลขาธิการ ป.ป.ส. อาจมีคาสั่งตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ไปก่อนก็ได้ แล้วรายงานคณะกรรมการในโอกาสแรกที่มีการประชุมของคณะกรรมการ ให้ เลขาธิการ ป.ป.ส. แจ้งคาสั่งตามวรรคหนี่ง วรรคสอง หรือวรรคสาม ให้ผู้ได้รับอนุญาตทราบ และดาเนินการตามคาสั่งโดยเร็ว ในกรณีที่ผู้ได้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตามคาสั่งนั้นภายในระยะเวลา ที่กาหนด ให้คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. เพิกถอนการอนุญาตนั้นทั้งหมด ห รือแต่บางส่วนได้ ตามที่เห็นสมควร ข้อ 20 ให้ผู้ได้รับอนุญาตส่งคืนทรัพย์สินที่นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่สำนักงาน ป.ป.ส. ทันทีเมื่อปรากฏว่า ้ หนา 15 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
(1) มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาต (2) ครบกำหนดเวลาที่ได้รับอนุญาต หรือ (3) ผู้ที่นำทรัพย์สินนั้นไปใช้ประโยชน์หมดความจำเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์ทรัพย์สินนั้นแล้ว การส่งคืนทรัพย์สิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด ข้อ 21 หลักประกันนั้น ถ้ามิได้มีการกาหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้จัดการ ดังต่อไปนี้ (1) ให้ส่งคืน เมื่ อการนาทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์เป็นไปโดยถูกต้องตามสัญญาและผู้ได้รับ อนุญาตได้ส่งคืนทรัพย์สินนั้นแล้ว แต่ในกรณีที่ทรัพย์สินที่ส่งคืนนั้นมีความชารุดบกพร่องหรือเสียหาย อย่างใด ๆ อันเนื่องมาจากการนำไปใช้ประโยชน์ ให้หักค่าเสียหายเอาจากหลักประกันนั้นตามส่วน (2) ให้ริบ เมื่อผู้ได้รับอนุญาตไม่ส่งทรัพย์สินคืนตามสัญญา ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ หมวด 3 การยึดหรืออายัด ข้อ 22 เมื่อคณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้มีคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินใดแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดำเนินการยึดหรืออายัดท รัพย์สินนั้นโดยเร็ว ข้อ 23 ก่อนทาการยึดทรัพย์สิน ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายแสดงเอกสาร การมอบหมายและคำสั่งยึดทรัพย์สินต่อผู้ถูกตรวจสอบหรือเจ้าของทรัพย์สิน ถ้าไม่พบตัวผู้นั้น ให้แสดง ต่อบุคคลผู้ครอบครองหรือบุคคลในครอบครัวของผู้ครอบครองทรัพย์สิ น หากไม่พบตัวบุคคลใด ๆ ณ ที่ทาการยึดนั้น ให้ดาเนินการยึดโดยให้มีเจ้าหน้าที่ตารวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่นั้น มาร่วมเป็นพยานด้วย ข้อ 24 ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดาเนินการยึดทรัพย์สินได้ทุกวันในเวลา กลางวันระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอำทิตย์ตก ถ้ายังไม่แล้วเสร็จประกอบกับมีความจาเป็นและ สมควรจะกระทำต่อเนื่องไปในเวลาหลังพระอาทิตย์ตกก็ได้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากไม่ดาเนินการในทันทีทรัพย์สินนั้นจะสูญหายหรือถูกยักย้าย ให้ดาเนินการยึดในเวลากลางคืนได้ ข้อ 25 ในกรณีที่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคาสั่งให้ยึดนั้นเป็น อสังหาริมทรัพย์ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินหรือ เจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจหน้าที่ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้น ทราบโดยเร็ว และให้เจ้าพนักงานที่ดินหรือเจ้าหน้าที่ดังกล่าวบันทึกการสั่งยึดนั้นไว้ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายปิดประกาศการยึดไว้ ณ บริเวณอสังหาริมทรัพย์นั้น และมีหนังสือแจ้งการยึดให้ผู้ถูกตรวจสอบ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของร่วมทราบ หากไม่ สามารถแจ้งแก่บุคคลดังกล่าวได้ ให้ปิดประกาศแจ้งการยึดไว้ในที่เปิดเผย ณ สำนักงานที่ดิน และสานักงานเขตหรือที่ว่าการอาเภอแห่งท้องที่อันเป็นที่ตั้งแห่งอสังหาริมทรัพย์นั้น และที่ทาการ ของสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ้ หนา 16 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
ในกรณีที่เจ้า พนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายสามารถนำหนังสือสำคัญสำหรับ อสังหาริมทรัพย์มาได้ ให้นำหนังสือสำคัญนั้นมาเก็บรักษาไว้ ณ ที่ทำการของสำนักงาน ป.ป.ส. ข้อ 26 การยึดโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับ มอบหมายจดแจ้งรายละเอียดข องสิ่งเหล่านั้นตามที่เห็นสมควร ในกรณียึดที่ดินที่มีโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นที่มีผู้อื่นครอบครองหรือเป็นเจ้าของ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายบันทึกถ้อยคาผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งนั้นให้ปรากฏว่า มีสิทธิในที่ดินนั้นอย่างไร เช่ น สิทธิอาศัย สิทธิการเช่า หรือสิทธิเหนือพื้นดิน ข้อ 27 ในกรณีที่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคาสั่งให้ยึดนั้นเป็น สังหาริมทรัพย์ ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายมีหนังสือแจ้งการยึดให้ผู้ถูกตรวจสอบ เจ้าของ ทรัพย์สิน หรือเจ้าขอ งร่วมทราบ หากไม่สามารถแจ้งแก่บุคคลดังกล่าวได้ ให้ปิดประกาศแจ้งการยึดไว้ ณ ที่ทำการของสำนักงาน ป.ป.ส. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กรณียึดสังหาริมทรัพย์ที่มีทะเบียนกรรมสิทธิ์ เช่น เรือกำปั่น หรือเรือที่มีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ที่มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป แพคนอยู่อาศัย เครื่องจักร อากาศยาน ยานพาหนะ อาวุธปืน ให้แจ้งการยึดไปยังนายทะเบียนแห่งทรัพย์สินนั้นด้วยและให้นายทะเบียนบันทึก การยึดนั้นไว้ ข้อ 28 ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายดำเนินการยึดสังหา ริมทรัพย์ใด แล้วไม่สามารถขนย้ายสังหาริมทรัพย์ที่ยึดนั้นมาเก็บรักษาไว้ได้ หรือสังหาริมทรัพย์นั้นมีสภาพไม่เหมาะสม ที่จะนามาเก็บรักษา ให้รายงานเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังไม่มีคาสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ดำเนินการ ยึดนั้นจัดการเก็บรักษาทรัพย์สินไว้ตามที่เห็นสมควรไปพลางก่อน ข้อ 29 ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายทำบัญชีทรัพย์สินที่ยึดโดยแสดง รายละเอียด เช่น ชื่อ ประเภท จานวน ขนาด น้าหนัก สภาพของทรัพย์สิน ตามลาดับหมายเล ขไว้ และให้แสดงเครื่องหมายไว้ที่ทรัพย์สินนั้นให้เห็นโดยประจักษ์แจ้งว่าได้มีการยึดแล้วตามวิธีที่เห็นสมควร ข้อ 30 เมื่อได้ยึดทรัพย์สินแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายจัดการให้ผู้ถูก ตรวจสอบ เจ้าของทรัพย์สิน หรือผู้ที่ครอบครองหรือผู้ที่อยู่ในครอ บครัวของผู้ครอบครองทรัพย์สินนั้น ลงนามรับรองบัญชีทรัพย์สินที่ยึดไว้ หากผู้นั้นไม่ยินยอมลงลายมือชื่อหรือในกรณีไม่มีบุคคลดังกล่าว ให้จดแจ้งในบัญชีทรัพย์สินที่ยึดและให้เจ้าหน้าที่ตารวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองในท้องที่นั้นลงลายมือชื่อ รับรองแทน ข้อ 31 ในกรณีที่ คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคาสั่งให้อายัดทรัพย์สินหรือสิทธิ เรียกร้องใด ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายแจ้งคาสั่งแก่ผู้ถูกตรวจสอบ หรือเจ้าของ ทรัพย์สินและบุคคลภายนอกซึ่งต้องรับผิดเพื่อชำระเงินหรือส่งมอบสิ่งของนั้น ไม่ว่าหนี้ของ บุคคลภายนอ กนั้นจะมีข้อโต้แย้ง ข้อจำกัด เงื่อนไข หรือยังไม่สามารถกำหนดจำนวนได้แน่นอนก็ตาม ้ หนา 17 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
ข้อ 32 กรณีการอายัดสิทธิเรียกร้องที่เป็นลูกหนี้ตามสัญญาหรือคาพิพากษา ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายเรียกให้บุคคลภายนอกชาระเงินหรือส่งมอบหรือโอนทรัพย์สินก็ได้ หรือ จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระหนี้อย่างอื่นนอกจากการชำระเงินหรือการส่งมอบหรือการโอนทรัพย์สินก็ได้ ถ้าค่าแห่งสิทธิเรียกร้องซึ่งอายัดไว้นั้นต้องเสื่อมเสียไปเพราะความผิดของบุคคลภายนอก เนื่องจากการที่ไม่ปฏิบัติตามคาสั่งอายัดไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ให้คณะกรรมการหรื อเลขาธิการ ป.ป.ส. เรียกให้บุคคลภายนอกนั้นรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแต่การนั้น ข้อ 33 ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินการทางทะเบียนหรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดแจ้งผลการยึดหรืออายัดทรัพย์สินกลับมายังคณะ กรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. ภายในระยะเวลาที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด ข้อ 34 ให้นาบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับกับการยึด หรืออายัดทรัพย์สินตามหมวดนี้โดยอนุโลม หมวด 4 การประเมินราคาทรัพย์สิน ข้อ 35 เมื่อดาเนินการยึดหรืออายัดทรัพ ย์สินใดแล้ว ให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับ มอบหมายดำเนินการประเมินราคาทรัพย์สินดังกล่าวโดยเร็ว ข้อ 36 ในการประเมินราคาทรัพย์สินบางประเภท เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมาย อาจขอความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบประเภท ชนิด และประเมินราคาทรัพย์สินนั้นได้ ข้อ 37 การประเมินราคาทรัพย์สินให้ประเมินตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) การประเมินราคาที่ดิน ให้ถือหลักเปรียบเทียบกับราคาตลาดหรืออิงราคาที่ใกล้เคียงกับ ราคาตลาดให้มากที่สุด แต่ไม่ต่ากว่าราคาประเมินของกรมที่ดินซึ่งใช้ในการจดท ะเบียนสิทธิและนิติกรรม (2) การประเมินราคาโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง (ก) อาคารที่ก่อสร้างใหม่ ให้ถือหลักการถอดแบบคำนวณตามวิธีการของการก่อสร้าง (ข) อาคารที่ใช้งานแล้ว ให้คานวณตามตารางสำเร็จของทางราชการ (3) การประเมินราคาทรัพย์สินอื่น ๆ (ก) สำหรับของใหม่ ให้ถือราคาตลาดเป็นเกณฑ์ในการประเมิน (ข) สำหรับของเก่า ให้ถือตามราคาตลาดหักด้วยค่าเสื่อมราคา ตามสภาพความเป็นจริง หรือตามวิธีการที่กำหนดไว้ (ค) สาหรับราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ให้ใช้ราคาซื้อขายครั้งหลังสุด ราคาหุ้นกู้ให้ใช้ ราคาที่ตราไว้ ส่วนราคาหุ้นในบริษัทต่าง ๆ ให้ประเมินราคาโดยการประเมินฐานะทางการเงินและ การดาเนินงานของบริษัทนั้น ้ หนา 18 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
ข้อ 38 เมื่อเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายได้ดาเนินการยึดหรืออายัดและประเมิน ราคาทรัพย์สินเสร็จแล้ว ให้ทารายงานเสนอต่อคณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. แล้วแต่กรณี พร้อมแนบบัญชีทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดนั้น ข้อ 39 กรณีที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. เห็นว่าราคาทรัพย์สินที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายประเมินต่ำหรือสูงเกินไป คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. อาจสั่งให้ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ผู้ได้รับมอบหมายชี้แจงเหตุผลแห่งการประเมิน หรือสั่งให้มีการประเมินราคา ทรัพย์สินนั้นใหม่ก็ได้ ข้อ 40 เมื่อศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้บังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นแทนทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด หรือให้ริบมูลค่าของทรั พย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับ การกระทาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ให้นาหลักเกณฑ์การประเมินราคาทรัพย์สินในหมวดนี้ ไปใช้กับการตรวจสอบและการบังคับเอากับทรัพย์สินอื่นแทนหรือการริบทรัพย์สินตามมูลค่าโดยอนุโลม หมวด 5 การขอรับทรัพย์สินคืนและการคืนทรัพย์สิน ข้อ 41 ในกรณีที่ต้องคืนทรัพย์สิน ให้สานักงาน ป.ป.ส. มีหนังสือแจ้งให้ผู้ซึ่งมีสิทธิได้รับ ทรัพย์สินนั้นคืนตามที่อยู่ครั้งหลังสุดของผู้นั้นเท่าที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนทราบเพื่อมารับ ทรัพย์สินดังกล่าวคืนไป เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นจะมีผู้มายื่นคำร้องขอคืนไว้แล้ว ข้ อ 42 ในกรณีที่ไม่ปรากฏตัวเจ้าของทรัพย์สินที่ต้องคืน ให้สำนักงาน ป.ป.ส. ปิดประกาศ ไว้ในที่เปิดเผย ณ ที่ทาการของสานักงาน ป.ป.ส. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และที่สานักงานเขต หรือที่ว่าการอาเภอแห่งท้องที่ที่ตรวจสอบพบทรัพย์สินนั้น และประกาศทางเว็บไซต์ ของสานักงาน ป.ป.ส. หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาธารณะอื่นใด เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อให้ผู้ซึ่งอ้างว่า เป็นเจ้าของมายื่นคาร้องต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อขอรับทรัพย์สินคืน และให้เลขาธิการ ป.ป.ส. เสนอคำร้องนั้นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป ข้อ 43 ผู้ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่คณะกรรมการหรือเลขาธิการ ป.ป.ส. มีคาสั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินแล้ว อาจยื่นคำร้องต่อเลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อขอรับทรัพย์สินของตนคืน ตามแบบที่ สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด ข้อ 44 คาร้องขอรับทรัพย์สินคืนอย่างน้อยต้องยื่นพร้ อมเอกสารหรือหลักฐานทางทะเบียน ที่ทางราชการออกให้หรือเอกสารหรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าตนเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครอง ในทรัพย์สินนั้น ในกรณีที่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินนั้นถึงแก่ความตาย ให้ยื่นใบมรณบัตรและคาสั่ง ของศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดกด้วย ้ หนา 19 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
ข้อ 45 เมื่อมีการคืนทรัพย์สินที่มีทะเบียนตามกฎหมาย ให้สำนักงาน ป.ป.ส. มีหนังสือแจ้ง การถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นไปยังนายทะเบียนหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบใน การจดทะเบียนสำหรับทรัพย์สินนั้นโดยเร็ว ข้อ 46 การรับทรัพย์สินคืนให้เจ้าของมารับคืนได้ ณ สถานที่ที่สานักงาน ป.ป.ส. แจ้งให้ทราบ เว้นแต่ในกรณีจำเป็นและมีเหตุผลสมควร เลขาธิการ ป.ป.ส. อาจสั่งให้เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. นำทรัพย์สินนั้นไปส่งคืนให้แก่เจ้าของก็ได้ ข้อ 47 ทรัพย์สินใดที่ไม่อาจคืนให้แก่เจ้า ของได้หรือไม่มีผู้ใดอ้างว่าเป็นเจ้าของเพื่อขอรับคืน ให้เลขาธิการ ป.ป.ส. รายงานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป หมวด 6 เบ็ดเตล็ด ข้อ 48 ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ การยึด การอายัด การเก็บรักษา การประเมินราคา ทรัพย์สิน และการส่งคืนทรัพย์สินตามกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไปตามที่เลขาธิการ ป.ป.ส. กาหนด โดยจ่ายจากกองทุน ข้อ 49 เอกสารการยึด การอายัด การประเมินราคาทรัพย์สิน และรายงานต่าง ๆ ตามกฎกระทรวงนี้ ให้เป็นไปตามแบบที่สำนักงาน ป.ป.ส. กำหนด ให้ไว้ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ . 256 6 สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ้ หนา 20 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 71 วรรคสาม มาตรา 73 วรรคสี่ มาตรา 74 วรรคสอง และมาตรา 82 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด กาหนดให้ การตรวจสอบทรัพย์สินโดยเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และการแจ้งให้ผู้ถูกตรวจสอบหรือผู้ซึ่งอาจอ้างเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินทราบเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้นไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทาความผิด ร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด การยื่นคาร้องขอผ่อนผันเพื่อขอรับทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราว ไปใช้ ประโยชน์ การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน การประเมินราคาทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ และการขอรับทรัพย์สินคืน และการคืนทรัพย์สิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง จึงจาเป็น ต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้ หนา 21 ่ เลม 140 ตอนที่ 13 ก ราชกิจจานุเบกษา 28 กุมภาพันธ์ 2566