Tue Feb 14 2023 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566


ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566

ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 อาศัยอานาจตามความในมาตรา 224 มาตรา 225 และมาตรา 226 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 5 มาตรา 22 มาตรา 24 มาตรา 26 มาตรา 28 มาตรา 32 มาตรา 34 มาตรา 37 มาตรา 41 มาตรา 42 มาตรา 43 มาตรา 44 มาตรา 48 มาตรา 49 และมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 20 มาตรา 58 มาตรา 59 มาตรา 60 มาตรา 62 มาตรา 63 และมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 54 มาต รา 132 มาตรา 133 มาตรา 134 มาตรา 137 มาตรา 138 และมาตรา 140 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 6 และมาตรา 70 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 9 มาตรา 106 มาตรา 107 มาตรา 108 และมาตรา 113 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิก สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 22 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ. ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 22 คำ ร้องต้องทำ เป็นหนังสือ ใช้ถ้อยคำ สุภาพและมีรายการ ดังนี้ (1) วัน เดือน ปีที่ทำ คำ ร้อง (2) ชื่อ ที่อยู่ และสถานะของผู้ร้อง หากมีหลายคนอาจจัดทำ เป็นบัญชีแนบท้ายคำ ร้องก็ได้ (3) ชื่อ และสถานะของผู้ถูกร้อง (ถ้ามี) หากมีหลายคนอาจจัดทำ เป็นบัญชีแนบท้ายคำ ร้องก็ได้ (4) การกระทาทั้งหลายที่เป็นเหตุแห่งการทำคำร้อง พร้อมทั้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ของ แต่ละข้อกล่าวหาตามสมควรอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและ พรรคการเมือง หรือการกระทำ อันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้ เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือ เป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับ วัน เวลา และสถานที่ที่เกิดการกระทา รวมทั้งบุคคลและหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ้ หนา 90 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

(5) บัญชีระบุพยานแนบท้า ยคำร้อง (ถ้ามี) (6) ลายมือชื่อผู้ร้อง ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 25 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 25 ผู้ร้องต้องยื่นคา ร้องด้วยตนเองที่สา นักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัด ที่จัดให้มีการเลือกตั้งนั้น เว้นแต่ในกรณีมีเหตุจา เป็นอาจยื่นที่สา นักงานก็ได้ ผู้ร้องอาจมอบอา นาจ ให้ผู้อื่นนา ไปยื่นแทนก็ได้ กรณีพรรคการเมืองเป็นผู้ร้อง ต้องแนบข้อบังคับของพรรคการเมือง และมติของ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองในการยื่นคำร้องด้วย กรณีมีการมอบอานาจ ใบมอบอา นาจต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร และ แนบสา เนาบัตรประจา ตัวประชาชนหรือบั ตรแสดงตัวอย่างอื่นที่ทางราชการออกให้ที่มีเลขประจำ ตัวประชาชน ของผู้ร้องหรือผู้ที่มีอำนาจทำการแทนพรรคการเมือง และผู้รับมอบอำ นาจ คาร้องตามข้อ 24 (1) (ข) และ (3) (ข) ให้ยื่นต่อคณะกรรมการประจา หน่วยเลือกตั้ง หรือเจ้าพนักงานผู้ดา เนินการเลือกตั้งที่ดาเนินการนับคะแนนหรือรวมคะแนนเลือกตั้งนั้น แล้วให้ คณะกรรมการประจา หน่วยเลือกตั้ง หรือเจ้าพนักงานผู้ดา เนินการเลือกตั้งจัดส่งคา ร้องต่อสา นักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัดโดยเร็ว ในกรณีมีการยื่นคำ ร้องต่อกรรมการโดยตรง กรรมการอาจส่งเรื่องให้เลขาธิการ หรือ ผู้อำ นวยการ ดา เนินการตามระเบียบนี้ เมื่อผู้ร้องได้ยื่นคาร้องตามวรรคหนึ่งและเลขาธิการหรือผู้อานวยการมีการพิจารณาแล้ว หากผู้ร้องมายื่นคำร้องเรื่องเดียวกันนั้นอีก ให้เลขาธิการหรือผู้อำนวยการ แล้วแต่กรณี สั่งรวมคำร้อ ง ให้พนักงานออกใบรับคำ ร้องให้แก่ผู้ร้องไว้เป็นหลักฐาน ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 26 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไ ต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 26 เมื่อได้รับคำ ร้องไว้แล้ว ให้พนักงานสืบสวนและไต่สวนหรือพนักงานที่ได้รับ มอบหมาย ตรวจคำ ร้องและดา เนินการ ดังนี้ (1) บันทึกการรับคำ ร้องไว้ในสารบบ (2) คา ร้องที่มีรายการยังไม่ครบถ้วนตามข้อ 22 ให้แจ้งผู้ร้องแก้ไขเพิ่มเติมในระยะเวลา ไม่เกินสามวัน หรือจะบันทึกถ้อยคำ ผู้ร้องประกอบเป็นส่วนหนึ่งของคา ร้องก็ได้ ้ หนา 91 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

(3) คา ร้องที่มีรายการครบถ้วนตามข้อ 22 หรือได้ดาเนินการ (2) แล้วมีรายละเอียด ครบถ้วนให้เสนอความเห็นต่อเลขาธิการหรือผู้อา นวยการ แล้วแต่กรณี พิจารณาสั่งรับไว้ดา เนินการ สืบสวนหรือไต่สวนโดยเร็ว โดยให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามวัน นับแต่วันรับเรื่องไว้ดาเนินการ หากเลขาธิการหรือผู้อานวยการ แล้วแต่กรณี พิจารณาแล้วเห็นว่า คาร้อง เป็นไปตาม (3) และไม่มีลักษณะตามข้อ 27 ให้พิจารณาสั่งรับไว้ดาเนินการสืบสวนหรือไต่สวน คา ร้องที่ดาเนินการตาม (2) แล้ว หากเลขาธิการหรือผู้อา นวยการ พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริง พฤติการณ์ หรือพยานหลักฐานที่ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ อาจสั่งให้ ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก็ได้ โดยให้นาวิธีดาเนินการของการตรวจมูลกรณี ข้อ 33 ข้อ 34 ข้อ 35 และข้อ 36 มาใช้บังคับโดยอนุโลม เมื่อเลขาธิการหรือผู้อา นวยการสั่งรับไว้ ดา เนินการสืบสวนหรือไต่สวนแล้ ว ให้เลขาธิการหรือ ผู้อา นวยการ แล้วแต่กรณี รายงานให้คณะกรรมการทราบ ตามแบบ สตว. 1 หรือ สตว. 1/1 แล้วแต่กรณี บรรดาสิ่งของหรือบันทึก รวมถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้มาจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสำนวนการสืบสวนหรือไต่สวน ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 27 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 27 ภายใต้บังคับข้อ 27/1 คำร้องที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ให้ไม่รับไว้ดาเนินการ (1) คำร้องที่ไม่ได้เป็นไปตามข้อ 22 (2) คำร้องที่ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องตามข้อ 23 (3) คำร้องที่ยื่นเกินระยะเวลาตามข้อ 24 (4) คำร้องที่มิได้ยื่นตามหลักเกณฑ์ตามข้อ 25 (5) คำร้องที่คณะกรรมการได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว (6) คาร้องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศำล หรือที่ศาลได้มีคาพิพากษาหรือมีคาสั่งถึงที่สุดแล้ว โดยให้หมายความรวมถึง ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ” ข้อ 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 27/1 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ข้อ 27/1 คำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่เป็น ข้อกล่าวหาที่มีโทษทางอาญาเพียงอย่างเดียวมิใช่เป็นกรณีการกระทำความผิดและมีผลทำให้การเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ผู้อำนวยการส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนที่ มีเขตอำนาจ ดาเนินการตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และให้รายงานต่อคณะกรรมการเพื่อทราบ ้ หนา 92 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

กรณีตามวรรคหนึ่ง หากคณะกรรมการ หรือเลขาธิการ เห็นว่าคาร้องมีมูลที่จะทาการสืบสวน หรือไต่สวนต่อไปได้ จะสั่งรับไว้ ดาเนินการก็ได้ คาร้องเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่นที่ยื่นมาก่อนวันเลือกตั้งน้อยกว่ายี่สิบวัน ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นโดยให้นำ วิธีดาเนินการของการตรวจมูลกรณี ข้อ 33 ข้ อ 34 ข้อ 35 และข้อ 36 มาใช้บังคับโดยอนุโลม หากพบว่าผู้สมัครนั้นขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามให้ดาเนินการตามวรรคหนึ่ง หากเป็นผู้สมัคร ที่ได้รับเลือกตั้งและเป็นกรณีภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว ให้เลขาธิการหรือผู้อานวยการ แล้วแต่กรณี ส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอาเภอ ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นกำหนด และรายงานให้ คณะกรรมการทราบ ” ข้อ 8 ให้ยกเลิกความในข้อ 28 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน กำรไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 28 กรณีตามข้อ 27 ให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ เพื่อพิจารณา โดยเสนอผ่านผู้อานวยการ และหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี โดยให้ดาเนินการให้เสร็จ ภายในสามสิบวัน นับแต่ วันที่ได้รับเรื่องไว้ดาเนินการ กรณีคาร้องตามข้อ 26 วรรคสาม ที่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว ผลปรากฏว่า ไม่มีมูลความผิด ให้เสนอความเห็นยกคาร้องต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา และหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี กรณีตามวรรคหนึ่ง หากเลขาธิการหรือผู้อานวยการ แล้วแต่กรณี เห็นว่าคาร้องมีลักษณะ ให้ไม่รับไว้ดำเนินการตามข้อ 27 ให้เลขาธิการหรือผู้อำนวยการ เสนอความเห็นพร้อมเหตุผล ต่อคณะกรรมการ ผู้อานวยการหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี เห็นสมควรอาจสั่งให้ดาเนินการเพิ่มเติมอย่างหนึ่ง อย่างใดเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์เพียงพอ ก่อนเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการพิจารณา หากเลขาธิการหรือผู้อานวยการ แล้วแต่กรณี เห็นว่า คาร้องมีข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ โดยมี พยานหลักฐานพอสมควร หรือมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนหรือไต่สวนต่อไปได้ อาจสั่ งรับไว้ดาเนินการ สืบสวนหรือไต่สวนก็ได้ คาร้องที่มีหลายข้อกล่าวหาให้พิจารณาเสนอความเห็นควรสั่งรับ ไม่รับไว้ดาเนินการ หรือ ยกคำร้องเป็นรายข้อกล่าวหา เมื่อคณะกรรมการพิจารณาความเห็นตามวรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสามแล้ว หากเห็นสมควร อาจสั่งให้ดาเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรืออาจสั่งรับไว้ดาเนินการอย่างใดหรือสั่งยกคำร้องก็ได้ ” ข้อ 9 ให้ยกเลิกความในข้อ 29 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรม การการเลือกตั้ง ้ หนา 93 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และให้ใช้ ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 29 ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏต่อบุคคล ดังต่อไปนี้ (1) คณะกรรมการหรือกรรมการผู้ใด ให้ผู้นั้นมีอานาจส่งเรื่องให้เลขาธิการหรือผู้อำนวยการ เพื่อตรวจมูลกรณี (2) เลขาธิการหรือผู้อานวยการผู้ใด ให้ผู้นั้นพิจารณาตรวจมูลกรณี ทั้งนี้ เลขาธิการจะส่ง เรื่องให้ผู้อำนวยการดาเนินการแทนก็ได้ (3) พนักงานผู้ใด ให้ผู้นั้นรายงานข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลั กฐานเบื้องต้น (ถ้ามี) ต่อเลขาธิการหรือผู้อำนวยการ แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาตรวจมูลกรณี กรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ หรือมีหลักฐาน พอสมควรหรือมีข้อมูลเพียงพอที่จะสืบสวนหรือไต่สวนต่อไปว่ามีการกระทาใดอันเป็นการฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไป โดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการ กรรม การ เลขาธิการ หรือผู้อานวยการ แล้วแต่กรณี พิจารณาสั่งให้ดาเนินการสืบสวนหรือไต่สวน โดยไม่ต้องมีการตรวจ มูลกรณีก่อนก็ได้ และรายงานให้คณะกรรมการทราบ ตามแบบ สตว. 2 หรือ สตว. 2/1 แล้วแต่กรณี คาร้องใดที่ผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องคัดค้านผู้สมัครรับเลือ กตั้งบางคนด้วยเหตุตามข้อ 23 แต่หาก ความปรากฏว่าในคำร้องนั้นเป็นข้อเท็จจริงเรื่องเดียวกันและมีการสั่งรับไว้ดาเนินการสืบสวนหรือไต่สวน สาหรับผู้ถูกร้องคนอื่นตามระเบียบแล้ว เมื่อผู้อานวยการหรือเลขาธิการ เห็นว่ามีพยานหลักฐาน พอสมควรก็ให้สั่งให้ดาเนินการสืบ สวนหรือไต่สวนเรื่องที่มีการกล่าวหาสาหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ผู้ร้อง ไม่มีสิทธิร้องนั้นด้วย เมื่อดาเนินการตรวจมูลกรณีแล้วเสร็จ ให้ดาเนินการตามข้อ 36 ต่อไป ” ข้อ 10 ให้ยกเลิกข้อ 37 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ข้อ 11 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 38 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การ ไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ (2) ในกรณีที่เลขาธิการหรือผู้อำนวยการสั่งให้มีการตรวจมูลกรณี ให้รายงานต่อเลขาธิการหรือ ผู้อำนวยการ แล้วแต่กรณี เป็นผู้พิจารณาสั่งให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวน หรือรายงานต่อ คณะกรรมการเพื่อพิจารณาสั่งการ ” ข้อ 12 ให้ยกเลิกความในข้อ 39 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 94 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

“ ข้อ 39 ก่อนมีคาสั่งตามข้อ 38 หากเห็นสมควร คณะกรรมการ กรรมการ เลขาธิการ หรือผู้อำนวยการ แล้วแต่กรณี อาจสั่งให้ดาเนินการตรวจมูลกรณีเพิ่มเติมก็ได้ ” ข้อ 13 ให้ยกเลิกความในข้อ 41 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 41 ในกรณีมี คาร้องหรือเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏว่า มีการกระทาใดอันเป็น การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือจะมีผลให้การเลือกตั้งมิได้ เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังไม่ปรากฏว่ามีผู้สมัครเป็ น ผู้กระทาหรือรู้เห็นเป็นใจหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว ถ้าคาร้องหรือเหตุอันควรสงสัยหรือ ความปรากฏดังกล่าวมีหลักฐานพอสมควรหรือมีข้อมูลเพียงพอให้ดาเนินการสืบสวน เมื่อคณะกรรมการ กรรมการ หรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี สั่งรับเรื่องใดไว้ดาเนินการ สืบสวนแล้ว ให้ส่งเรื่องให้ผู้อำนวยการเพื่อมอบหมายคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะใดคณะหนึ่ง เป็นเจ้าของสานวนเพื่อดาเนินการสืบสวนเรื่องนั้นโดยเร็ว กรณีเห็นสมควรคณะกรรมการ กรรมการ หรือเลขาธิการ อาจมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะใดคณะหนึ่งดาเนินการก็ ได้ ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการดา เนินการสืบสวนและ สรุปสา นวนให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ หากไม่แล้วเสร็จให้รายงาน พร้อมเหตุผลความจา เป็นต่อผู้อานวยการ เพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาการสืบสวนออกไ ปอีกไม่เกิน สองครั้ง ครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน และหากไม่แล้วเสร็จให้รายงานเหตุผลความจาเป็นเพื่อขออนุมัติขยาย ระยะเวลาการสืบสวนต่อเลขาธิการ โดยให้ขอขยายระยะเวลาก่อนสิ้นสุดระยะเวลาการสืบสวนไม่น้อยกว่า ห้าวัน ในระหว่างที่เลขาธิการยังมิได้อนุมัติขยายระยะเวลาการสืบสวนให้ดาเนินการสืบสวนต่อไป ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการดา เนินการสืบสวนและ สรุปสา นวนให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ หากไม่แล้วเสร็จให้รายงาน พ ร้อมเหตุผลความจำ เป็นต่อเลขาธิการ เพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาสืบสวนออกไปอีกไม่เกิน ครั้งละสิบห้าวัน กรณีที่มีการสั่งรวมคาร้องหรือเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏกับสำนวนสืบสวนที่อยู่ระหว่าง ดำเนินการสืบสวนอยู่เดิม ให้นับระยะเวลาสืบสวน ตามสำนวนการสืบสวนแรกเ ป็นระยะเวลา การสืบสวนตามวรรคสามหรือวรรคสี่ แล้วแต่กรณี แต่หากเป็นกรณีที่มีการแยกเรื่องหรือแยกประเด็นไปทา การสืบสวนต่างหากแล้วก็ให้ถือระยะเวลานับแต่วันที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รับเรื่องหรือ ประเด็นที่แยกไว้ดาเนินการ กรณีเลขาธิการเห็นสมควรจะมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะหนึ่งคณะใด เป็นเจ้าของสานวน เพื่อดาเนินการสืบสวนก็ได้ และเมื่อดาเนินการสืบสวนแล้วเสร็จ ให้ดาเนินการ ตามข้อ 48 ้ หนา 95 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

ในกรณีตามวรรคสอง วรรคสามและวรรคห้า ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเจ้าของ สานวน หรือที่ได้รับมอบหมาย ดา เนินการสืบสวนและสรุปสา นวนให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่ วันที่ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ ” ข้อ 14 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของข้อ 46 ของระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ในกรณีที่พยานบุคคลอยู่ต่างท้องที่ เลขาธิการหรือผู้อำนวยการที่มอบหมายสำนวน การสืบสวนให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน อาจส่งประเด็นไปให้ผู้อานวยการในจังหวัดแห่งท้องที่ ที่พยานอาศัยอยู่เพื่อมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนประจำจังหวัดนั้น ดาเนินการสื บสวน หรือไต่สวนแทนก็ได้ เมื่อดาเนินการแล้วให้คณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนที่ได้รับมอบหมายรวบรวม ถ้อยคำสำนวน พร้อมทั้งพยานหลักฐานส่งไปยังผู้ส่งประเด็น ” ข้อ 15 ให้ยกเลิกความในวรรคสี่ของข้อ 48 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และ การวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ เมื่อเลขาธิการได้รับสานวนการสืบสวนตามวรรคสอง หรือวรรคสามแล้ว ให้จัดทาความเห็น พร้อมเหตุผลเสนอต่อคณะกรรมการ เว้นแต่มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยก็ให้ดาเนินการ ตามข้อ 78 ในกรณีที่มีเหตุอันสมคว ร เลขาธิการอาจสั่งให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดาเนินการ สืบสวนเพิ่มเติมก่อนมีความเห็น โดยในการจัดทาความเห็นของเลขาธิการ ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดาเนินการ ” ข้อ 16 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของข้อ 51 ของระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ กรณีเลขาธิการเห็นสมควรจะมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะหนึ่งคณะใด เป็นเจ้าของสานวนเพื่อดาเนินการไต่สวนก็ได้ และเมื่อดาเนินการไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ให้ดาเนิ นการ ตามข้อ 59 ” ข้อ 17 ให้ยกเลิกความในข้อ 52 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 52 ให้ประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวนจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการสืบสวน และไต่สวนเพื่ อดาเนินการไต่สวนโดยเร็ว ในการประชุมครั้งแรกให้พิจารณากำหนดแนวทางและ ระยะเวลาการไต่สวน โดยให้พิจารณาจากเอกสาร หรือหลักฐานต้นเรื่อง รวมทั้งข้อเท็จจริงและ พฤติการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การไต่สวนดาเนินไปด้วยความรวดเร็วและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ได้รับมอบหมายจากผู้อานวยการ ดา เนินการไต่สวนและ สรุปสา นวนให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ หากไม่แล้วเสร็จให้รายงาน พร้อมเหตุผลความจา เป็นต่อผู้อานวยการเพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาการไต่สวนออกไปอีกไ ม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกินสิบห้าวัน โดยหากไม่แล้วเสร็จให้ผู้อานวยการรายงานพร้อมเหตุผลความจาเป็นเพื่อ ้ หนา 96 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

ขอ อนุมัติขยายระยะเวลาการไต่สวนต่อเลขาธิการ โดยให้ขอขยายระยะเวลาก่อนสิ้นสุดระยะเวลา การไต่สวนไม่น้อยกว่าห้าวัน ในระหว่างที่เลขาธิการยังไม่ได้อนุมัติขยายระยะเวลาการไต่สวน ให้ดาเนินการไต่สวนต่อไป ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการดา เนินการไต่สวนและ สรุปสา นวนให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ หากไม่แล้วเสร็จให้รายงาน พร้อมเหตุผลความจำ เป็นต่อเลขาธิการ เพื่อขออนุมัติขยายระยะเวลาไต่สวนออกไปอีกไม่เกินครั้งละสิบห้าวัน กรณีที่มีการสั่งรวมคาร้องหรือเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏกับสานวนไต่สวนที่อยู่ระหว่าง ดาเนินการไต่สวนอยู่เดิม ให้นับระยะเวลาไต่สวน ตามสานวนการไต่สวนแรกเป็นระยะเวลาการไต่สวน ตามวรรคสองหรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี แต่หากเป็นกรณีที่มีการแยกเรื่องหรือแยกประเด็นไปทา การไต่สวนต่างหากแล้วก็ให้ถือระยะเวลานับแต่วันที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รับเรื่องหรือประเด็น ที่แยกไว้ดาเนินการ กรณีเลขาธิกำรเห็นสมควรจะมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะหนึ่งคณะใด เป็นเจ้าของสำนวนเพื่อดาเนินการไต่สวนก็ได้ และเมื่อดาเนินการไต่สวนแล้วเสร็จ ให้ดาเนินการตามข้อ 59 ในกรณีตามวรรคสอง วรรคสามและวรรคห้า ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนเจ้าของ สำนวนหรือที่ได้รับมอบห มาย ดา เนินการไต่สวนและสรุปสำ นวนให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ ได้รับเรื่องไว้ดา เนินการ ” ข้อ 18 ให้ยกเลิกความในข้อ 55 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 55 ในกรณีที่การไต่สวนมีพยานหลักฐานสนับสนุนเพียงพอที่จะฟังได้ว่า หัวหน้าพรรคการเมือง คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ผู้สมัครซึ่งถูกกล่าวหาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น มีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละละเลย หรือทราบถึงการกระทาของผู้สมัครซึ่งถูกกล่าวหานั้นแ ล้ว มิได้ยับยั้งหรือแก้ไข เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ถือว่าหัวหน้าพรรคการเมือง หรือคณะกรรมการ บริหารพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย ให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนรายงานต่อ ผู้อานวยการหรือเลขาธิการเพื่อเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาแก่บุคคล ดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจมอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ผู้อานวยการ หรือ เลขาธิการ เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาแทนก็ได้ ” ข้อ 19 ให้ยกเลิกความในวรรคสี่ของข้อ 59 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ เมื่อเลขาธิการได้รับสานวนการไต่สวนตามวรรคสอง หรือวรรคสามแล้ว ให้จัดทาความเห็น พร้อมเหตุผลเสนอต่อคณะกรรมการ เว้นแต่มีการแต่งตั้งคณะอนุ กรรมการวินิจฉัย ก็ให้ดาเนินการตามข้อ 78 ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร เลขาธิการอาจสั่งให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนดาเนินการไต่สวน ้ หนา 97 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

เพิ่มเติมก่อนมีความเห็น โดยในการจัดทาความเห็นของเลขาธิการ ให้ดาเนินการให้แล้วเสร็จภายใน หกสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดาเนินการ ” ข้อ 20 ให้ยกเลิกชื่อส่วนที่ 7 การรวมเรื่อง การแยกเรื่อง และการถอนเรื่อง ของหมวด 3 การตรวจมูลกรณี การสืบสวน การไต่สวน และการสอบสวน ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ส่วนที่ 7 การรวม การแยก การโอนเรื่องและสำนวน และการถอนคาร้อง ” ข้อ 21 ให้ยกเลิกความในข้อ 69 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และให้ใช้ ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 69 เลขาธิการอาจสั่งให้รวมคาร้อง เหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ สำนวน การสืบสวนหรือไต่สวน เมื่อมีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) ผู้ร้องและผู้ถูกร้องเป็นรายเดียวกัน (2) ผู้ร้องและผู้ถูกร้องหลายรายซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันหรือมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน (3) เรื่องร้องที่มีผู้ร้องต่างรายกัน แต่ผู้ถูกร้องเป็นรายเดียวกัน (4) เรื่องที่ร้อง หรือเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏที่มีมูลกรณีเดียวกันหรือเกี่ยวพันกัน กรณีผู้อำนวยการเห็นสมควร อาจสั่งให้รวมคำร้อง เหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏ สา นวนการสืบสวนหรือไต่สวน เมื่อมีกรณีตาม (4) ก็ได้ แต่หากเห็นสมควรให้มีการดาเนินการ ตาม (1) (2) หรือ (3) ให้เสนอเลขาธิการเพื่อพิจารณา ” ข้อ 22 ให้ยกเลิกความในข้อ 70 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 70 เมื่อเลขาธิการเห็นว่า การสืบสวนหรือไต่สวนเรื่องใดมีความยุ่ง ยาก ซับซ้อน หรือ อาจจะเกิดความล่าช้า เพื่อให้การสืบสวนหรือไต่สวนเป็นไปด้วยความรวดเร็วหรือเพื่อประโยชน์ แห่งความยุติธรรม เลขาธิการอาจสั่งให้แยกเรื่องหรือแยกประเด็นของเรื่องดังกล่าวไปสืบสวนหรือไต่สวน ต่างหาก หรือแยกไปรวมกับประเด็นของเรื่องอื่นก็ได้ ” ข้อ 23 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 70/1 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ข้อ 70/1 กรณีมีเหตุจาเป็นหรือมีเหตุอันสมควร เลขาธิการอาจสั่งให้โอนเรื่องหรือสำนวน สืบสวนหรือไต่สวนให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะหนึ่งคณะใด แทนคณะกรร มการสืบสวน และไต่สวนคณะเดิมก็ได้ ้ หนา 98 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

กรณีที่มีสานวนการสืบสวนหรือไต่สวนอยู่ระหว่างดาเนินการของคณะกรรมการสืบสวนและ ไต่สวนประจาจังหวัดคณะใดคณะหนึ่ง แล้วปรากฏว่ำ มีเหตุผลความจาเป็นที่ทาให้คณะกรรมการ สืบสวนและไต่สวนประจาจังหวัดคณะนั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่จนแล้วเสร็จได้ คณะกรรมการสามารถ มอบหมายให้เลขาธิการเป็นผู้มีอำนาจพิจารณามอบหมายสำนวนที่อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อให้ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะใดคณะหนึ่งเป็นเจ้าข องสำนวนแทนได้ ” ข้อ 24 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ 72 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบ คณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ก่อนคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาด ผู้ร้องอาจยื่นหนังสือขอถอนคาร้องต่อเลขาธิการหรือ ผู้อานวยการก็ได้ เมื่อเลขาธิการหรือผู้อานวยการได้รับหนังสือขอถอนคาร้องแล้ว ให้เสนอความเห็น พร้อมเหตุผลโดยระบุรายละเอียดเกี่ ยวกับข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ว่า มีหลักฐานพอสมควรหรือมีข้อมูล เพียงพอที่จะสืบสวนหรือไต่สวนต่อไปหรือไม่ต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ” ข้อ 25 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของข้อ 75 ของระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉั ยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ กรณีปรากฏหลักฐานหรือมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของประธาน อนุกรรมการวินิจฉัยหรืออนุกรรมการวินิจฉัย อันอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่เป็นกลางทางการเมือง ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอื่น ๆ คณะกรรมการมีอานาจสั่งให้ประธาน อนุกรรมการวินิจฉัย หรืออนุกรรมการวินิจฉัยผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตาแหน่งได้ ” ข้อ 26 ให้ยกเลิกความในข้อ 79 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใ ช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 79 เมื่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณาแล้วเสร็จ ให้จัดทาความเห็นตามแบบ สตว. 8 เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับสำนวนไว้ดาเนินการ ความเห็นของคณะอนุกรรมการวินิจฉัย ต้องระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบ โดยต้อง ลงลายมือชื่อของประธานอนุกรรมการวินิจฉัยและอนุกรรมการวินิจฉัยที่พิจารณาทุกคน ในกรณีที่ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยหรืออนุกรรมการวินิจฉัยคนใดมีความเห็นแย้ง ให้ทา ความเห็นแย้งประกอบไว้ด้วย กรณีมีเหตุจำเป็นที่คณะอนุกร รมการวินิจฉัยทั้งคณะไม่สามารถลงนามในความเห็นได้ ให้ประธานอนุกรรมการวินิจฉัยหรืออนุกรรมการวินิจฉัยคนใดคนหนึ่งที่เข้าร่วมพิจารณาในสานวน เป็นผู้ลงนามในความเห็นคนเดียวก็ได้ และให้ถือว่าเป็นความเห็นของคณะอนุกรรมการวินิจฉัย ” ข้อ 27 ให้ยกเลิกความในข้อ 82 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 99 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566

“ ข้อ 82 เมื่อคณะกรรมการได้รับสานวนการสืบสวนหรือไต่สวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาชี้ขาด หรือสั่งการโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินเก้าสิบวั น นับแต่วันที่ได้มีการประชุมในสำนวนนั้น ในกรณีที่การสืบสวนหรือไต่สวน มีความจาเป็นต้องเปิดหีบบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนเลือกตั้ง แล้วเสร็จ ให้เลขาธิการเสนอเหตุผลความจาเป็นต่อคณะกรรมการเพื่อขอให้มีการเปิดหีบบัตรเลือกตั้ง กรณีคณะกรรมการเห็นว่ามีความจาเป็ นต้องเปิดหีบบัตรเลือกตั้งที่นับคะแนนเลือกตั้งแล้วเสร็จ อาจสั่ง ให้เปิดหีบบัตรเลือกตั้งก็ได้ ” ข้อ 28 ให้ยกเลิกความในข้อ 84 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 84 ให้เลขาธิการส่งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้แก่ผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง หรือผู้อำนวยการทราบ แล้วแต่กรณี ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการมีมติ ” ข้อ 29 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 91 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัย ชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ข้อ 91 การกระทาใด ๆ ที่อยู่ระหว่างดาเนินการตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และระเบียบคณะกรรมการ การเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ที่เกี่ยวข้องอยู่ก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ดาเนินการตามระเบียบดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ ” ข้อ 30 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 92 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ข้อ 92 ให้เลขาธิการเสนอสานวนการสืบสวน หรือไต่สวน ที่ให้ดาเนินการตามระเบียบนี้ ต่อคณะกรรมการโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหนึ่งปี นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ” ข้อ 31 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 93 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 “ ข้อ 93 การกาหนดระยะเวลาดาเนินงานตามระเบียบนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความยุติธรรม โดยไม่ล่าช้า เป็นมาตรการเร่งรัด และให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบได้ว่าเรื่องอยู่ระหว่างการดาเนินงาน เสร็จสิ้นเมื่อใด แต่การกาห นดระยะเวลาดังกล่าวจะกระทบต่อความเป็นอิสระในการอานวยความยุติธรรม หรือดาเนินงานโดยสุจริตของบุคคลใดไม่ว่าทางใดมิได้ ” ประกาศ ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25 66 อิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ้ หนา 100 ่ เลม 140 ตอนที่ 10 ก ราชกิจจานุเบกษา 15 กุมภาพันธ์ 2566