พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
พระราช บัญญัติ อ้อยและน ้าตาลทราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 25 6 5 เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยอ้อยและน้าตาลทราย พระราชบัญญัตินี มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจ้ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท้าได้ โดยอาศัยอ้านาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจ้าเป็นในการจ้ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตา มพระราชบัญญัตินี เพื่อให้การควบคุมและติดตามการน้าเข้าน ้าตาลทรายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นประโยชน์ ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินีสอดคล้องกับเงื่อนไข ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึนไว้โดยค้าแนะน้าและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี ้ หนา 1 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี เรียกว่า “ พระราชบัญญัติอ้อยและน้าตาลทราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ” มาตรา 2 พระราชบัญญัตินีให้ใช้บังคับตังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิ จจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกบทนิยามค้าว่า “ น ้าตาลทราย ” และ “ ผลพลอยได้ ” ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน ““ น ้าตาลทราย ” หมายความว่า น ้าตาลไม่ว่าจะอยู่ในรูปใดที่ผลิตได้จากอ้อยและให้หมายความ รว มถึงน้าอ้อยซึ่งได้จากการหีบอ้อยในกระบวนการผลิตของโรงงาน และน้าอ้อยซึ่งเคี่ยวเป็นน ้าเชื่อมหรือ รูปอื่นไม่ว่าจะใช้ในการผลิตน ้าตาลทรายหรือไม่ และในกรณีที่มีการน้าผลพลอยได้มารวมเพื่อค้านวณ ราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่ายน ้าตาลทราย ให้หมายความรวมถึงผลพลอยได้ ด้วย “ ผลพลอยได้ ” หมายความว่า กากอ้อย กากน ้าตาล และให้หมายความรวมถึง ผลพลอยได้อื่นใดที่ได้จากการผลิตน ้าตาลทรายตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ที่คณะกรรมการก้าหนด ” มาตรา 4 ให้ยกเลิกบทนิยามค้าว่า “ โรงงาน ” ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติ อ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน ““ โรงงาน ” หมายความว่า โรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานซึ่งผลิตน ้าตาลทราย เว้นแต่ เป็นโรงงานซึ่งผลิตน ้าตาลทรายประเภท วิธีการผลิตและก้าลังการผลิต ตามที่ก้าหนดในกฎกระทรวง และให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงำนผลิตน้าตาลทรายด้วย ” มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 6 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 6 เพื่อรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศและคุ้มครองรักษาผลประโยชน์ ของชาวไร่อ้อยในด้านการผลิตและจ้าหน่าย และให้เกิดความเป็นธรรมแก่โรงงานและผู้บริโภค การจัดระบบ การบริหารจัดการ รวมทั งการพัฒนาและส่งเสริมการผลิตและจ้าหน่ายอ้อยและน ้าตาลทราย ให้เป็นไป ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี มาตรา 7 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ให้ถือว่าบรรดา กรรมการ อนุกรรมการและคณะท้างานตามพระราชบัญญัตินี และลูกจ้างที่จ้างโดยใช้เงินกองทุน เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ กฎหมายว่าด้วยมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แล้วแต่กรณี ้ หนา 2 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
ในกรณีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐมีมติว่า กรรมการ อนุกรรมการ หรือคณะท้างานตามพระราชบัญญัตินี หรือลูกจ้างตามวรรคหนึ่ง ผู้ใดทุจริตหรือประพฤติมิชอบให้รัฐมนตรีผู้สั่งแต่งตัง ส้าหรับกรณีของ ก รรมการที่รัฐมนตรีแต่งตัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมส้าหรับกรณีอื่น สั่งให้ผู้นัน พ้นจากต้าแหน่ง และในกรณีการกระท้าของผู้นันเป็นความผิดอาญาด้วย ให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ด้าเนินการต่อไปตามอ้านาจหน้าที่ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริตหรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แล้วแต่กรณี ” มาตรำ 6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 11 ผู้แทนชาวไร่อ้อยและผู้แทนโรงงานต้องมีสัญชาติไทย และไม่มีลักษณะ ต้องห้าม ดังต่อไปนี (1) เป็นบุคคลล้มละลาย (2) เคยได้รับโทษจ้าคุกโดยค้าพิพากษาถึงที่สุดให้จ้าคุก เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า สามปี หรือเป็นโทษส้าหรับความผิดที่ได้กระท้าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (3) เคยเป็นผู้ถูกสั่งให้ออกตามมาตรา 7 วรรคสอง (4) เคยถูกถอดถอนออกจากต้าแหน่งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่ำด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตหรือตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต (5) เป็นผู้ด้ารงต้าแหน่งทางการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต (6) เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยต้องเป็นชาวไร่อ้อยซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากสถาบันชาวไร่อ้อย โดยต้องค้านึงถึง สัดส่วนของปริมาณอ้อยของสมาชิกของแต่ละสถาบัน และต้องไม่เป็นกรรมการ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ ที่ปรึกษำ พนักงานหรือลูกจ้างของโรงงาน ้ หนา 3 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
ผู้แทนโรงงานต้องเป็นกรรมการ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ ที่ปรึกษา พนักงานหรือลูกจ้าง ของโรงงานซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมโรงงาน และต้องค้านึงถึงสัดส่วนตามก้าลังผลิตของสมาชิก ของสมาคมโรงงาน การเสนอและการถอดถอนผู้แทนชาวไร่ อ้อยและผู้แทนโรงงานให้เป็นไปตามระเบียบที่ รัฐมนตรีก้าหนด ” มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนีเป็นวรรคสี่ของมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 “ ในกรณีที่ไม่มีผู้ด้ารงต้าแหน่งกรรมการหรือมีแต่ไม่ครบไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คณะกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ ซึ่งต้องมีผู้แทนจาก ส่วนราชการ ผู้แทนชาวไร่อ้อย และผู้แทนโรงงาน อย่างน้อยฝ่ายละหนึ่งคน เว้นแต่มีกรรมการรวมกัน เหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจ้านวนกรรมการทั งหมด ” มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 16 ในกรณีที่ไม่มีประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธาน กรรมการคนที่หนึ่งปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าไม่มีประธานกรรมการและรองประธาน กรรมการคนที่หนึ่งหรือ มีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการคนที่สองปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าไม่มีประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการทังสองคนหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้เลขานุการเรียกประชุมเพื่อให้ ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติ หน้าที่แทนประธานกรรมการ ” มาตรา 9 ให้ยกเลิกความใน (1) ของมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “( 1) ก้าหนดยุทธศาสตร์ นโยบายและแผนแม่บท การบริหารจัดการระบบอุตสาหกรรม อ้อยและน ้าตาลทรายเพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทรายให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้ดุลยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ” มาตรา 10 ให้ยกเลิกความใน (18) ของมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ ( 18) ก้าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ้าหน่ายน ้าตาลทรายเพื่อใช้บริโภค ในราชอาณาจักร ” ้ หนา 4 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
มาตรา 11 ให้ยกเลิกความใน (24) ของมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “( 24) ก้าหนดอัตราค่าธรรมเนียมเพื่อการบริหารจั ดการอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทราย และเพื่อการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทรายและวิธีการช้าระค่าธรรมเนียม ตลอดจน อัตราค่าบ้ารุงและวิธีการช้าระค่าบ้ารุงสถาบันชาวไร่อ้อย ” มาตรา 12 ให้ยกเลิกความใน (28) ของมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “( 28) ก้าหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการต่าง ๆ คณะอนุกรรมการและคณะท้างาน ตามพระราชบัญญัตินี นอกจากคณะกรรมการอ้อยและน ้าตาลทราย ” มาตรา 13 ให้ยกเลิกความในวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ของมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ การก้าหนดตาม (1) (14) (15) (19) (20) (25) (28) และ (30) ต้องได้รับ ความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี การก้าหนดตาม (2) (4) (9) (10) (12) (13) (16) (17) (18) (21) (22) (23) (24) และ (26) ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี การก้าหนดตาม (2) (3) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (10) (11) (12) (13) (14) (15) (16) (17) (18) (19) (20) (21) (22) (23) (24) (25) (26) และ (30) ให้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ” มาตรา 14 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ ให้น้ามาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ” มาตรา 15 ให้ยกเลิกความในมาตรา 23 มาตรา 24 และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ อ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 23 ให้จัดตังกองทุนขึ นกองทุนหนึ่งเรียกว่า “ กองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย ” มีฐานะเป็นนิติบุคคล และให้มีส้านักงานอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล โดยมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี ้ หนา 5 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
(1) สนับสนุน ส่งเสริม ศึกษา วิจัย และพัฒนา อุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทราย ให้เป็นไปตามนโยบายของประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน (2) รักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทราย เพื่อผลประโยชน์ข องชาวไร่อ้อย โรงงาน และผู้บริโภค เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ (3) กระท้าการอื่นที่จ้าเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุน มาตรา 24 ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตังคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “ คณะกรรมการ บริหารกองทุน ” ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหก รณ์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงการคลังหนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรมหนึ่งคน ผู้แทนส้านักงบประมาณหนึ่งคน ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทยหนึ่งคน ผู้แทนชาวไร่อ้อยสี่คน ผู้แทนโรงงานสี่คนและผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คณะกรรมการเสนอหนึ่งคน เป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนเลือกกรรมการด้วยกันเป็นประธานกรรมการและรองประธาน กรรมการต้าแหน่งละหนึ่งคน ให้ผู้อ้านวยการส้านักงานกองทุนอ้อยและน ้าตาลทรายเป็นเลขานุการคณะกรรมการบริหาร กองทุน กรรมการตามวรรคหนึ่ง ต้องไม่ด้ารงต้าแหน่งกรรมการหรืออนุกรรมกา รในคณะกรรมการอื่นใด ซึ่งตังขึนตามพระราชบัญญัตินี ให้น้ามาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม มาตรา 25 คณะกรรมการบริหารกองทุนมีหน้าที่ดังต่อไปนี (1) ให้ค้าปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการในเรื่องตามมาตรา 17 (27) (2) ก้าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในเรื่องต่าง ๆ ตามมาตรา 23 (3) ก้าหนดระเบียบว่าด้วยการเก็บรักษา การหาผลประโยชน์และการใช้จ่ายเงินกองทุน (4) ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบที่คณะกรรมการก้าหนด (5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายก้าหนด หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย (6) บริหาร และควบคุมการปฏิบัติงานกองทุนให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี การก้าหนดตาม (2) และ (3) ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ให้น้ามาตรา 21 วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ้ หนา 6 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
คณะอนุกรรมการหรือคณะท้างานที่คณะกรรมการบริหารกองทุนจะมอบหมายให้ปฏิบัติการแทน คณะกรรมการบริหารกองทุน ต้องประกอบด้วยผู้แทนส่วนราชการ ผู้แทนชาวไร่อ้อย และผู้แทน โรงงาน ตามอัตราส่วนที่ก้าหนดไว้ตามมาตรา 24 ” มาตรา 16 ให้ เพิ่มความต่อไปนี เป็นมาตรา 25/1 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 “ มาตรา 25/1 ให้กองทุนมีส้านักงานเรียกว่า “ ส้านักงานกองทุนอ้อยและน ้าตาลทราย ” มีอ้านาจและหน้าที่ดังต่อไปนี (1) ปฏิบัติงานธุรการของคณะกรรมการบริหารกองทุน (2) เก็บรวบรวมและวิ เคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับจ่ายเงินกองทุน (3) ด้าเนินการต่าง ๆ ของกองทุนและประสานงานกับส้านักงาน คณะกรรมการและ คณะกรรมการอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัตินี (4) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการบริหารกองทุนมอบหมาย ให้มีผู้อ้านวยการส้านักงานกองทุนอ้อยและน ้าตาลทรายเป็นผู้บังคับบัญชาลูกจ้างของส้านักงาน กองทุนอ้อยและน ้าตาลทรายและรับผิดชอบต่อคณะกรรมการบริหารกองทุนในการบริหารกิจการ ของกองทุน เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ รวมทั งค้าสั่ง นโยบาย และมติของคณะกรรมการบริหารกองทุน ” มาตรา 17 ให้ยกเลิกความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 27 กองทุนประกอบด้วย (1) ค่าธรรมเนียมเพื่อการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้าตาลทราย (2) ค่าธรรมเนียมเพื่อการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้าตาลทราย (3) เบี ยปรับตามมาตรา 17 (25) (4) เงินที่ได้รับตามมาตรา 57 (5) ดอกผลของกองทุน (6) เงินกู้ (7) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับมาเพื่อคุ้มครองและพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม (8) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับจากการด้าเนินงานของกองทุน ้ หนา 7 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
(9) เงินและทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตกเป็นของกองทุน มาตรา 28 ให้ชาวไร่อ้อยและโรงงานช้าระค่าธรรมเนียมเพื่อการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อย และน ้า ตาลทราย และเพื่อการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทราย โดยค้านวณจาก ปริมาณอ้อยที่ส่งให้แก่โรงงานและจากปริมาณน ้าตาลทรายและผลพลอยได้ที่ผลิตได้ แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที่คณะกรรมการก้าหนด ” มาตรา 18 ให้ยกเลิกมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 มาตรา 19 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ ให้น้ามาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ” มาตรา 20 ให้ยกเลิกความในมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 41 ให้คณะกรรมการแต่งตังกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “ คณะกรรมการน ้าตาลทราย ” ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หนึ่งคน ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์สองคน ผู้แทน กระทรวงอุตสาหกรรมสองคน ผู้แทนชาวไร่อ้อยห้าคน และผู้แทนโรงงานห้าคน เป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการน ้าตาลทรายเลือกกรรมการด้วยกันเป็นประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และเลขานุการต้าแหน่งละหนึ่งคน ให้น้ามาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ” มาตรา 21 ให้ยกเลิกความในมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 47 ผู้ใดจะน้าเข้าน ้าตาลทรายต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการและต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการก้าหนด ” มาตรา 22 ให้ยกเลิกความในวรรคสามของมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน ้ หนา 8 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
“ ราคาอ้อยขันต้นและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่ายน ้าตาลทรายขันต้นต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละแปดสิบ แต่ไม่เกินร้อยละ เก้าสิบห้าของประมาณการรายได้ที่ค้านวณได้ โดยให้ค้านึงถึงต้นทุน การผลิตอ้อยและน้าตาลทรายประกอบด้วย ” มาตรา 23 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 56 ในกรณีที่ราคาอ้อยขั นสุดท้า ยและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่าย น ้าตาลทรายขั นสุดท้ายต่้ากว่าราคาอ้อยขันต้นและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่ายน ้าตาลทรายขั นต้น ให้กองทุนน้าเงินตามมาตรา 27 (1) (2) และ (4) มาจ่ายชดเชยให้แก่โรงงานเท่ากับส่วนต่างดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการก้าหนด ” มาตรา 24 ให้ยกเลิกความในมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “ มาตรา 57 ในกรณีที่ราคาอ้อยขั นสุดท้ายและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่าย น ้าตาลทรายขันสุดท้ายสูงกว่าราคาอ้อยขันต้นและผลตอบแทนการผลิตและจ้าหน่ายน ้าตาล ทรายขั นต้น ให้โรงงานน้าส่งเงินเข้ากองทุนจากรายได้สุทธิตามมาตรา 54 ตามอัตราและภายในระยะเวลา ที่คณะกรรมการก้าหนด เมื่อโรงงานน้าส่งเงินเข้ากองทุนตามวรรคหนึ่งแล้ว หากมีเงินเหลือที่โรงงานจะต้องช้าระค่าอ้อยเพิ่ม ให้แก่ชาวไร่อ้อยตามมาตรา 56 วรรคสอง ให้โรงงานจ่ายให้กับชาวไร่อ้อยโดยค้านึงถึงการจ่ายเงิน ให้แก่ผู้ปลูกอ้อยโดยตรง ซึ่งหัวหน้ากลุ่มชาวไร่อ้อยต้องแจ้งชื่อชาวไร่อ้อยตามจ้านวนไร่และจ้านวนตันอ้อย ต่อโรงงาน ” มาตรา 25 ให้ยกเลิกความใน (1) ของมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติอ้อย และน้าตาลทราย พ.ศ. 2527 และให้ใช้ความต่อไปนี แทน “( 1) ปฏิบัติงานธุรการของคณะกรรมการและคณะกรรมการอื่น ๆ ตามพระราชบัญญัตินี เว้นแต่คณะกรรมการบริหารกองทุน ” มาตรา 26 ให้เพิ่มความต่อไปนี เป็น (1/1) ของมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติ อ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 ้ หนา 9 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
“( 1/1) จัดท้ายุทธศาสตร์ นโยบายและแผนแม่บท การบริหารจัดการระบบอุตสาหกรรมอ้อย และน ้าตาลทรายเพื่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทรายให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้ ดุลยภาพด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ” มาตรา 27 ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนซึ่งด้ารงต้าแหน่งอยู่ในวั นก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินีใช้บังคับยังคงอยู่ในต้าแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระ หรือพ้นจากต้าแหน่งเพราะเหตุอื่น ในกรณีที่ต้าแหน่งกรรมการว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้คณะกรรมการบริหารกองทุนประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ เว้นแต่เหลือกรรมการผู้แทนชาวไร่อ้อยแล ะกรรมการผู้แทนโรงงานน้อยกว่า ฝ่ายละสองคน ให้ด้าเนินการแต่งตั งคณะกรรมการบริหารกองทุนตามพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี มาตรา 28 บรรดาระเบียบ ประกาศ หรือค้าสั่ง ที่ออกตามพระราชบัญญัติอ้อยและ น ้าตาลทราย พ .ศ. 2527 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินีใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับต่อไป เพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัตินี จนกว่าจะมีระเบียบ ประกาศ หรือค้าสั่งตามพระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี ใช้บังคับ การด้าเนินการออกระเบียบ ประกาศ หรือค้าสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้ด้าเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินีใช้บังคับ หากไม่สามารถด้าเนินกา รได้ให้รัฐมนตรีรายงาน เหตุผลที่ไม่อาจด้าเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ มาตรา 29 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 10 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราช บัญญัติ ฉบับนี คือ โดยที่พระราชบัญญัติอ้อยและน ้าตาลทราย พ.ศ. 2527 ได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานาน ท้าให้บทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่าง ประเทศ จนเป็นเหตุให้มีการร้องเรียนว่าขัดต่อข้อก้าหนดขององค์การการค้าโลก ตลอดจนบทบัญญัติ ของกฎหมายปัจจุบันก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติที่ท้าให้การด้าเนินงานตามพระราชบัญญัตินี เป็นไป อย่างไม่มีประสิทธิภาพและไม่เอือต่อการ ส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมอ้อยและน ้าตาลทราย อีกทัง ควรค้านึงถึงความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในระบบอ้อยและน ้าตาลทราย อันเป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ดังกล่าว เพื่อไม่ให้ขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศและเพื่อประโยชน์ต่อชาวไรอ้อย โรงงานน ้าตาลทราย ผู้บริโภค และระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงจ้าเป็นต้องตราพระ ราชบัญญัตินี ้ หนา 11 ่ เลม 139 ตอนที่ 78 ก ราชกิจจานุเบกษา 23 ธันวาคม 2565