คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 20/2565 เรื่อง ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ด้านการเมือง (2) หรือไม่ [ระหว่าง ประธานรัฐสภา ผู้ร้อง - ผู้ถูกร้อง]
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 20/2565 เรื่อง ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ด้านการเมือง (2) หรือไม่ [ระหว่าง ประธานรัฐสภา ผู้ร้อง - ผู้ถูกร้อง]
ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลรัฐธรรมนูญ คําวินิจฉัยที่ 20/2565 เรื่องพิจารณาที่ 19/2565 วันที่ 23 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2565 ประธานรัฐสภา ผู้รอง - ผู้ถูกรอง เรื่อง ประธานรัฐสภาสงความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 วา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) หรือไม่ ประธานรัฐสภา (ผู้รอง) สงความเห็นของ พลเอก สมเจตน บุญถนอม สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะสมาชิกรัฐสภา และคณะ รวม 77 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ขอเท็จจริงตามคํารองและเอกสารประกอบ สรุปได้ดังนี้ ที่ประชุมรวมกันของรัฐสภาพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ในวาระที่สาม ต่อมาเมื่อวันที่ ระหวาง ้ หนา 27 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
16 สิงหาคม 2565 ผู้รองสงรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกลาวให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งเพื่อให้ความเห็น คณะกรรมการการเลือกตั้งแจงความเห็นมายังผู้รองวาไม่มีขอทักทวง สมาชิกวุฒิสภาในฐานะสมาชิกรัฐสภา รวม 77 คน (ผู้เขาชื่อเสนอความเห็น) เห็นวา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มีขอความขัดหรือแยง ต่อรัฐธรรมนูญ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยมีเหตุผลสรุปได้ดังนี้ 1. รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติวา ขอบังคับอยางนอยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้… (15) รายได้ของพรรคการเมือง และอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมืองซึ่งต้องเรียกเก็บจากสมาชิก จากเดิม “ ไม่นอยกวา ปละหนึ่งรอยบาท ” แกไขเป็น “ ไม่นอยกวาปละยี่สิบบาท ” และรางมาตรา 4 แกไขเพิ่มเติมมาตรา 15 วรรคสี่ ที่บัญญัติวา พรรคการเมืองอาจกําหนดให้เรียกเก็บคาบํารุงพรรคการเมืองจากสมาชิกแบบตลอดชีพ ตามอัตราที่กําหนดในขอบังคับก็ได้ จากเดิม “ แต่ต้องไม่นอยกวาสองพันบาท ” แกไขเป็น “ แต่ต้องไม่นอยกวา สองรอยบาท ” เมื่อพิจารณาเจตนารมณของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ประสงคให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมในการเป็นเจ้าของพรรคการเมืองและมีความรับผิดชอบ ต่อพรรคการเมือง แต่รางมาตราดังกลาวแกไขให้ลดอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมืองรายป และคาบํารุงพรรคการเมืองแบบตลอดชีพ อาจทําให้มีการจางคนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองโดยออกเงินคาธรรมเนียม และคาบํารุงพรรคการเมืองให้ สงผลต่อกระบวนการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อถูกครอบงําหรือถูกชี้นําได้งาย รางมาตรา 3 และรางมาตรา 4 จึงขัดต่อเจตนารมณ ของรัฐธรรมนูญ 2. รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 5 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 24 จากเดิมที่บัญญัติวา “ สมาชิกต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องหามตามที่กําหนดในขอบังคับ ซึ่งอยางนอยต้องมีอายุไม่ต่ํากวาสิบแปดปและมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องหามตามมาตรา 9 (1) (3) และ (5) ” แกไขในสวนลักษณะต้องหาม (3) เป็นไม่เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้จําคุกวา กระทําความผิดต่อตําแหนงหน้าที่ราชการ หรือต่อตําแหนงหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิด ้ หนา 28 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ตามกฎหมายวาด้วยความผิดของพนักงานในองคการหรือหนวยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทํา โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เวนแต่เป็นการรอการลงโทษ ทําให้ผู้ที่เคยต้องคําพิพากษา อันถึงที่สุดให้จําคุกเพราะกระทําความผิดดังกลาว แต่ศาลรอการลงโทษสามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเดิมจะต้องหามมิให้ใชสิทธิสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพราะเป็นผู้มีมลทินมัวหมองไม่เหมาะสม ที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ประสงคสรางกลไกให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมืองของประชาชนที่มีอุดมการณรวมกันอยางแทจริง โดยไม่ประสงคให้บุคคลกระทําความผิดในฐานดังกลาวทํากิจกรรมทางการเมือง รางมาตรา 5 จึงขัดต่อเจตนารมณ ของรัฐธรรมนูญ 3. รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 6 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 35 วรรคหนึ่ง จากเดิมที่บัญญัติวา “ เขตเลือกตั้งในจังหวัดใดที่มิได้เป็นที่ตั้งสํานักงานใหญหรือสาขาพรรคการเมือง ถาพรรคการเมืองนั้นมีสมาชิกซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นเกินหนึ่งรอยคน ให้พรรคการเมืองนั้นแต่งตั้งสมาชิกซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นซึ่งมาจากการเลือก ของสมาชิกดังกลาวเป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดเพื่อดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบนั้นและให้นําความในมาตรา 34 มาใชบังคับแกตัวแทนพรรคการเมืองประจํา จังหวัดด้วยโดยอนุโลม ” แกไขเป็น ในจังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้งสาขาพรรคการเมือง ถาพรรคการเมืองนั้น มีสมาชิกซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในจังหวัดนั้นเกินหนึ่งรอยคน พ รรคการเมืองนั้นอาจแต่งตั้งสมาชิก ซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในจังหวัดนั้นซึ่งมาจากการเลือกของสมาชิกดังกลาว ให้เป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดได้ ตามจํานวนที่เห็นสมควรเพื่อดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในจังหวัดนั้นและให้นําความในมาตรา 34 มาใชบังคับแกตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดด้วยโดยอนุโลม โดยตัดเงื่อนไขสําคัญเกี่ยวกับ การมีสมาชิกพรรคการเมืองอยู่ในเขตเลือกตั้งออก แกไขเพียงให้มีสมาชิกพรรคการเมืองอยู่ในจังหวัดนั้น จํานวนเกินหนึ่งรอยคนเทานั้นและไม่จําเป็นต้องมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตเลือกตั้ง นอกจากนี้ การให้มีสมาชิกในระดับจังหวัดโดยไม่จําเป็นต้องมีสมาชิกในระดับเขตเลือกตั้งไม่สงเสริม ให้เกิดการกระจายตัวเพื่อให้ประชาชนมีสวนรวมทางการเมืองกับพรรคการเมืองอยางกวางขวางทุกเขตเลือกตั้ง รางมาตรา 6 จึงขัดแยงต่อเจตนารมณของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรร มนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ้ หนา 29 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
- รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 7 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 47 จากเดิมวรรคหนึ่ง ที่บัญญัติวา “ พรรคการเมืองซึ่งประสงคจะสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ” และวรรคสอง ที่บัญญัติวา “ การสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ให้พรรคการเมืองสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบ ในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ” แกไขเป็น พรรคการเมืองซึ่งประสงคจะสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในจังหวัดใด ต้องมีสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดในจังหวัดนั้น ในกรณีพรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคการเมือง มากกวาหนึ่งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดมากกวาหนึ่งตัวแทนในจังหวัดใด ให้พรรคการเมืองนั้นกําหนดวาจะให้สาขาพรรคการเมืองสาขาใดหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดใด ในจังหวัดนั้นเป็นสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดเพื่อดําเนินการตามมาตรา 50 มีผลให้พรรคการเมืองไม่ต้องมีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้ง ทั้งยังตัดหลักเกณฑการสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งที่กําหนดให้ต้องสงผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้นออก รางมาตรา 7 จึงขัดแยงเจตนารมณของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ประสงคให้สมาชิกพรรคการเมืองต้องมีสวนรวมอยางกวางขวางในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง 5. รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 9 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 50 (2) จากเดิมบัญญัติวา “ เมื่อพนกําหนดเวลารับสมัครตาม (1) ให้คณะกรรมการสรรหาตรวจสอบคุณสมบัติ ของผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้ง แล้วสงรายชื่อผู้สมัครให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัดที่มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ” แกไขโดยตัดขอความ “ ที่มีพื้นที่รับผิดชอบ ในเขตเลือกตั้งนั้น ” ออก และแกไขมาตรา 50 (3) จากเดิมที่บัญญัติวา “ เมื่อสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดได้รับรายชื่อผู้สมัครจากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ให้หัวหน้า ้ หนา 30 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด จัดการประชุมสมาชิกเพื่อลงคะแนน เลือกผู้สมัครตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา ” แกไขเป็น จัดการประชุมสมาชิกเพื่อรับฟงความคิดเห็น และให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด นอกจากนี้ ยังแกไขวิธีการดําเนินการในมาตรา 50 (4) จากเดิมที่บัญญัติวา “ การประชุมสาขาพรรคการเมืองต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่นอยกวาหนึ่งรอยคน หรือการประชุมตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่นอยกวาหาสิบคน โดยในการลงคะแนนให้สมาชิกมีสิทธิลงคะแนนเลือกได้หนึ่งคน และเมื่อลงคะแนนเลือกเสร็จสิ้นแล้ว ให้นับคะแนนและประกาศผลการนับคะแนนของสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ในเขตเลือกตั้งนั้น แล้วรายงานรายชื่อผู้สมัครซึ่งได้รับคะแนนลําดับสูงสุดสองลําดับแรกให้คณะกรรมการสรรหาโดยเร็ว ในกรณีที่มีผู้มีคะแนนเทากันมากกวาจํานวนดังกลาว ให้เป็นอํานาจของคณะกรรมการสรรหา ในการจัดเรียงลําดับ ” แกไขเป็น ให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด สงรายชื่อผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งทั้งที่ได้รับความเห็นชอบและไม่ได้รับความเห็นชอบ พรอมความคิดเห็นตาม (3) ให้คณะกรรมการสรรหาเพื่อพิจารณาเสนอความคิดเห็น และแกไขวิธีการ ดําเนินการในมาตรา 50 (5) จากเดิมที่บัญญัติวา “ ให้คณะกรรมการสรรหาสงรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งได้รับคะแนนของแต่ละเขตเลือกตั้งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยพิจารณาจากผู้มีคะแนนสูงสุดของแต่ละเขตเลือกตั้ง… ” แกไขเป็น ให้คณะกรรมการสร รหา สงรายชื่อผู้สมัครของแต่ละเขตเลือกตั้งพรอมความคิดเห็นตาม (3) และ (4) ให้คณะกรรมการบริหาร พรรคการเมืองเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเสนอให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง การแกไขราง มาตรา 9 ดังกลาว เป็นการแกไขการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง โดยให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดจัดการประชุมสมาชิกเพื่อรับฟงความคิดเห็น และให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา โดยที่ประชุมสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดไม่มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้สมัคร และไม่ต้องจัดทํารายงานรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดสองลําดับแรกให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเสนอให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สวนรางมาตรา 10 แกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ้ หนา 31 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
มาตรา 51 จากเดิมที่บัญญัติเกี่ยวกับการกําหนดหลักเกณฑการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อไวในทํานองเดียวกันกับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งตามมาตรา 50 แกไขเป็น ให้หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด จัดการประชุมสมาชิกเพื่อรับฟงความคิดเห็นและให้สมาชิก ให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา โดยที่ ประชุม สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดไม่มีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้สมัคร และไม่ต้องจัดทํารายงานเรียงลําดับคะแนน โดยให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นผู้พิจารณา ให้ความเห็นชอบบุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นผู้จัดลําดับตามที่เห็นเหมาะสมโดยตัดอํานาจการมีสวนรวม ของสมาชิกพรรคการเมืองในสวนนี้ทั้งหมด รางมาตรา 9 และรางมาตรา 10 จึงขัดต่อเจตนารมณ ของรัฐธรรมนูญ ที่ประสงคเปดโอกาสให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมและรับผิดชอบในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง การจัดทําบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งอยางชัดเจนและเป็นรูปธรรมตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 90 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) นอกจากนี้ การแกไขเพิ่มเติมรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 เป็นการแกไขเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 บิดเบือนเจตนารมณ ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่เป็นกลไกในการปฏิรูป พรรคการเมือง ดังนั้น รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 จึงขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 5 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ผู้รองตรวจสอบลายมือชื่อของสมาชิกรัฐสภาผู้เสนอความเห็นแล้วเห็นวา มีสมาชิกรัฐสภารวมกัน เขาชื่อเสนอความเห็นจํานวนไม่นอยกวาหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเทาที่มีอยู่ของทั้งสองสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 จึงสงความเห็นเพื่อขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ้ หนา 32 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาเบื้องตนมีวา ศาลรัฐธรรมนูญมีอํานาจรับคํารองนี้ไววินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 หรือไม่ เห็นวา ขอเท็จจริง ตามคํารองและเอกสารประกอบคํารองเป็นกรณีที่สมาชิกรัฐสภา จํานวน 77 คน เป็นจํานวน ไม่นอยกวาหนึ่งในสิบของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเทาที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเขาชื่อรองต่อผู้รอง ขอให้สงความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยวา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และผู้รองยื่นคํารองต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยวิธีพิจารณา ของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (1) ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคําสั่งรับคํารองไวพิจารณาวินิจฉัย และให้ผู้เกี่ยวของ ได้แก ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามั ญพิจารณา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และเลขาธิการวุฒิสภา จัดทําความเห็นเป็นหนังสือ และสงเอกสารต่อศาลรัฐธรรมนูญ สรุปสาระสําคัญดังนี้ 1. ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ให้ความเห็นวา คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 (1) แล้ว มีมติเสียงขางมาก (5 : 2) เห็นวารางพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 ไม่มีขอความใดขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ หรือทําให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้ และเป็นการแกไขกฎหมาย เกี่ยวกับพรรคการเมืองเพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติงานของพรรคการเมืองเทานั้น สวนกรรมการการเลือกตั้ง เสียงขางนอย เห็นวา รางมาตรา 9 และรางมาตรา 10 ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 90 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) เนื่องจากสมาชิกพรรคการเมืองไม่มีสวนรวม และมีความรับผิดชอบอยางแทจริงในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 ก. (2) และมาตรา 90 วรรคสาม ้ หนา 33 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
- ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ให้ความเห็นวา คณะกรรมาธิการวิสามัญ มีความเห็นรวมกันวาการพิจารณารางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ยึดโยงกับการแกไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 โดยให้ความสําคัญแกการใชสิทธิของประชาชนที่มีอุดมการณทางการเมืองเดียวกันสามารถรวมกัน เพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองได้งาย สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมและมีความรับผิดชอบอยางแทจริง ในการดําเนินกิจกรรมทางการเมือง และสงเสริมให้พรรคการเมืองมีกลไกการขับเคลื่อนการมีสวนรวม ของสมาชิกพรรคการเมืองในการดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง การสนับสนุนจากประชาชน ในจํานวนที่เหมาะสมที่ดํารงความเป็นพรรคการเมือง และวางระบบการสรรหาบุคคลมาทําหน้าที่ ในพรรคการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอยางแทจริง ซึ่งยังคงเจตนารมณของรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ตามรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 7 มาตราดังกลาว ดังนี้ 1) การที่รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 และรางมาตรา 4 แกไขเพิ่มเติมโดยปรับลดอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมือง แบบรายปและแบบตลอดชีพ เพื่อไม่ให้สรางภาระต่อประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมากเกินไป สามารถชําระคาธรรมเนียมด้วยตนเอง สอดคลองกับการให้ความสําคัญกับการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมือง โดยปราศจากการแทรกแซงของกลุ่มทุนของพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็กสามารถรณรงค หาสมาชิกพรรคการเมืองไม่ยากจนเกินไปและสามารถกอตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม หากมีนายทุนพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นผู้จายแทนสมาชิกเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนหรือจูงใจให้สมัครเป็น สมาชิกพรรคการเมืองจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 30 และมาตรา 109 2) รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 5 แกไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อสรางหลักประกันแกพรรคการเมืองที่บุคคลที่มีศักยภาพ มีคุณธรรม มีความประพฤติดีจะเขามาเป็น สมาชิกพรรคการเมือง ขจัดกลุ่มคนไม่ดีออกจากระบบการเมือง โดยคณะกรรมาธิการแบงระดับความเขมขน ้ หนา 34 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ของคุณสมบัติและลักษณะต้องหามการดํารงตําแหนงในพรรคการเมืองออกเป็น 3 ระดับ คือ ผู้จัดตั้ง พรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งยังคงหลักการ ในเรื่อง การกําหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมืองแบบเดียวกับที่บัญญัติ ไวในมาตรา 24 แต่ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของผู้ที่จะสมัครเป็น สมาชิกพรรคการเมือง โดยไม่เป็นการจํากัดสิทธิในการเขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมากเกินไป เนื่องจากมาตรา 24 กําหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมืองเทียบเทา กับกรรมการบริหารพรรคการเมืองแตกตางกันเพียงอายุ เป็นการกําหนดที่สูงเกิน เมื่อเปรียบเทียบ กับหน้าที่และอํานาจของกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่มีบทบาทในพรรคการเมืองแตกตางกัน เป็นอยางมาก จึงกําหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมืองให้แตกตาง จากกรรมการบริหารพรรคการเมือง โดยแยกการกระทําความผิดตามที่กําหนดในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) ออกเป็นสองกลุ่มตามระดับความรายแรงของการกระทําความผิด คือ กลุ่มที่หนึ่ง เป็นผู้เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดวากระทําความผิดต่อตําแหนงหน้าที่ราชการหรือต่อตําแหนงหน้าที่ ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายวาด้วยความผิดของพนักงานในองคการหรือหนวยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา โดยบุคคลที่กระทําความผิดดังกลาว ยังสามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ หากต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้จําคุก แต่ศาลรอการลงโทษ และกลุ่มที่สอง เป็นผู้เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดวากระทําความผิดตามกฎหมายวาด้วยการกูยืมเงิน ที่เป็นการฉอโกงประชาชน กฎหมายวาด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นําเขา สงออก หรือผู้คา กฎหมายวาด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมายวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการคามนุษย หรือกฎหมายวาด้วยการปองกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน โดยบุคคลที่กระทําความผิดดังกลาวไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ตลอดชีวิต เนื่องจาก เป็นความผิดที่รายแรง จึงไม่ควรเปดโอกาสให้บุคคลที่กระทําความผิดดังกลาวเขามาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง 3) รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 6 แกไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด เพื่อให้เป็นตัวแทน ของประชาชนในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งตามหลักการมีสวนรวมของประชาชนอยางแทจริง และเป็นการขยายสิทธิการมีสวนรวมทางการเมืองของประชาชนมากขึ้น ้ หนา 35 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
- รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 7 เกี่ยวกับเงื่อนไขของพรรคการเมืองที่สงผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง มีเจตนารมณ สงเสริมให้พรรคการเมืองมีกลไกขับเคลื่อนการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมืองในการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งในจังหวัด หากจังหวัดใดพรรคการเมือง มีสาขาพรรคการเมืองเพียงแห่งเดียว หรือมีตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดนั้นเพียงหนึ่งตัวแทน พรรคการเมืองสามารถดําเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น และยังเป็นการขยายสิทธิให้แกสมาชิกพรรคการเมืองพิจารณาสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตจังหวัดนั้นทุกเขตเลือกตั้ง มิได้จํากัดเฉพาะเขตเลือกตั้ง ที่สมาชิกมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งเทานั้น 5) รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 9 แกไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบงเขตเลือกตั้ง และรางมาตรา 10 แกไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ยังคงให้ความสําคัญกับการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมือง ในการเสนอความเห็นและให้ความเห็นชอบรายชื่อบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ สวนกรณีที่เปลี่ยนวิธีการจากการที่สมาชิกพรรคการเมืองจาก “ ลงมติ ” แกไขเป็น “ ให้ความเห็นชอบ ” เพื่อลดขั้นตอนการดําเนินการของพรรคการเมืองในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากการลงมติจะต้องจัดให้มีการประชุมสมาชิก ซึ่งมีขั้นตอนในการดําเนินการหลายขั้นตอน รวมทั้งต้องใชงบประมาณในการดําเนินการอันสงผลกระทบต่อพรรคการเมือง 3. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรสงเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณารางพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ของรัฐสภา สรุปสาระสําคัญ การพิจารณาได้วา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 และรางมาตรา 4 เป็นการแกไขเพิ่มเติมเพื่อชวยแกไขปญหากรณีสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ชําระคาบํารุงพรรคการเมืองเป็นเวลาสองปติดต่อกัน ทําให้สมาชิกภาพของสมาชิกพรรคการเมืองสิ้นสุดลง อัตราดังกลาวถือเป็นอัตราที่เหมาะสม ไม่เป็นภาระแกประชาชน และทําให้สมาชิกพรรคการเมือง มีสวนรวมและมีความรับผิดชอบต่อพรรคการเมือง เป็นการเสริมสรางให้พรรคการเมืองมีความเขมแข็ง ้ หนา 36 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
อยางแทจริง สวนการแกไขเพิ่มเติมรางมาตรา 5 เนื่องจากคุณสมบัติและลักษณะต้องหามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกพรรคการเมืองสามารถกําหนดไวให้แตกตางกันได้ การแกไขเพิ่มเติม รางมาตรา 6 เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กําหนดให้พรรคการเมืองจะต้องจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองและมีโทษหากไม่ปฏิบัติตาม แต่การดําเนินการประชุมสมาชิกพรรคการเมืองมีคาใชจายที่พรรคการเมืองต้องรับภาระ การเสนอให้มี ตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด เนื่องจากเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมักมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อแกไขปญหาดังกลาว จึงกําหนดให้ใชเขตจังหวัดเป็นกรอบในการกําหนดตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ซึ่งต้องมาจากการเลือกของสมาชิกพรรคการเมืองในจังหวัด โดยมีจํานวนตามที่พรรคการเมืองเห็นสมควร เพื่อดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในจังหวัด และสะทอนการมีสวนรวมของประชาชนในพื้นที่ ในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง สําหรับการแกไขเพิ่มเติมรางมาตรา 7 เพื่อแกไขปญหาในทางปฏิบัติ กรณีที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องมีการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดในทุกเขตเลือกตั้ง ที่ประสงคจะสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง การแกไขเพิ่มเติมรางมาตรา 9 เนื่องจากเห็นวาคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งประกอบด้วยตัวแทนของภาคประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมีจํานวนที่มากกวา คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง และคณะกรรมการสรรหามีที่มาจากการเลือกของสมาชิกพรรคการเมือง ที่รวมประชุมในที่ประชุมใหญพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมืองจึงมีสวนรวมในการคัดเลือก ผู้สมัครรับเลือกตั้งอยางกวางขวางตามรัฐธรรมนูญแล้ว ปจจุบันพนกําหนดระยะเวลาหาป ในการดําเนินการปฏิรูปประเทศไปแล้ว ไม่ควรนํารัฐธรรมนูญ มาตรา 258 ก. ดานการเมือง มาใชเป็นหลักอางอิงเกี่ยวกับการกําหนดให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง การคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งควรกําหนดให้พรรคการเมืองจะต้องเป็นผู้ดําเนินการอยางเป็นอิสระ การแกไขเพิ่มเติมรางมาตรา 10 เพื่อให้กระบวนการเสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อเกิดความหลากหลาย รวมทั้งพรรคการเมืองสามารถเสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อครอบคลุมทั้งประเทศ การกําหนดให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองสามารถเสนอรายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ เป็นการให้สิทธิกรรมการบริหารพรรคการเมืองแต่ละคน ในการพิจารณาเสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง มิใชการเสนอโดยมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร พรรคการเมือง จึงไม่เกิดปญหาการขัดกันแห่งผลประโยชนในการทําหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคการเมือง ้ หนา 37 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
พิจารณาเสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งกับการทําหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ 4. เลขาธิการวุฒิสภาสงเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สรุปสาระสําคัญการพิจารณาได้วา มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (15) กําหนดอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมือง มีวัตถุประสงค ให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 และกําหนดขึ้น ตามมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) เพื่อให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมและมีความรับผิดชอบ อยางแทจริงในการดําเนินกิจกรรมทางการเมือง มาตรา 24 เป็นกรณีที่นําคุณสมบัติ และลักษณะต้องหามมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางประการมาเป็นคุณสมบัติ และลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเป็นกลไกพื้นฐานในการคัดสรรบุคคล และเป็นการพัฒนาการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมืองให้ได้สมาชิกที่สามารถมีสวนรวม ซึ่งรวมไปถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย สําหรับมาตรา 35 ที่กําหนดให้มีตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัด ซึ่งในอดีตการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองทําได้ยาก เนื่องจากมีคาใชจายสูง ถาพรรคการเมือง มีสมาชิกพรรคในจังหวัดตาง ๆ เป็นจํานวนมาก ก็สามารถรวมตัวกันในจังหวัดเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ จึงกําหนดให้มีกลไกใหมโดยให้มีตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ซึ่งไม่จําเป็นต้องมีสํานักงาน เหมือนกับสาขาพรรคการเมือง แต่ให้ตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดเพื่อดูแลสมาชิกพรรคการเมือง ในจังหวัดนั้น และเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรคการเมืองในจังหวัดนั้นเขารวมประชุมใหญสามัญประจําป ของพรรคการเมือง และเป็นกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองนั้น สวนกรณีที่กําหนด ให้เขตเลือกตั้งใดมีจํานวนสมาชิกพรรคการเมืองเกินหนึ่งรอยคน ให้มีการเลือกสมาชิกเป็นตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัด เพื่อใชเป็นฐานให้สมาชิกพรรคการเมืองเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง กลไกดังกลาวทําให้บทบาทและนโยบายของพรรคการเมืองสามารถไปสูประชาชนกวางขวางมากขึ้น สมาชิกพรรคการเมืองสามารถมีสวนรวมในกิจกรรมพรรคการเมืองได้ มาตรา 47 กําหนดเงื่อนไข ของพรรคการเมืองที่จะสงผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง ต้องมีสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดที่มีเขตรับผิดชอบในการเลือกตั้ง และให้พรรคการเมือง สงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดนั้น ้ หนา 38 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
เพื่อเป็นการปฏิรูปพรรคการเมืองโดยประชาชนมีสวนรวมอยางแทจริง มาตรา 50 กําหนดหลักเกณฑ การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง และมาตรา 51 กําหนดหลักเกณฑการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อให้เป็นไป ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) ที่กําหนดให้ต้องมีกระบวนการคัดเลือก ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการสภาขับเคลื่อน การปฏิรูปประเทศดานการเมืองของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเสนอแนวทางการสงผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ โดยการเริ่มตนให้ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้รับการคัดเลือกจากสมาชิกผู้มีภูมิลําเนาในเขตเลือกตั้งนั้น ซึ่งเขตใดที่มี สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตนั้น กอนสงรายชื่อไปยังคณะกรรมการสรรหาของพรรคการเมือง ดําเนินการแล้วสงต่อไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพื่อให้ความเห็นชอบ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคํารอง ความเห็นของผู้เกี่ยวของ และเอกสารประกอบแล้วเห็นวา คดีเป็นปญหาขอกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไตสวน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง และในสวนที่ผู้รองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยวา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนั้น ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นมิได้ระบุรายละเอียดขอเท็จจริงพรอมเหตุผลสนับสนุนให้ชัดแจงวารางพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญดังกลาวตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญอยางไร จึงไม่รับวินิจฉัยในสวนนี้ ศาลรัฐธรรมนูญกําหนดประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยวา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) หรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นวา รัฐธรรมนูญ มาตรา 45 เป็นบทบัญญัติในหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ ของปวงชนชาวไทย มาตรา 45 วรรคหนึ่ง บัญญัติวา “ บุคคลยอมมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้ง พรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุข ้ หนา 39 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ตามที่กฎหมายบัญญัติ ” วรรคสอง บัญญัติวา “ กฎหมายตามวรรคหนึ่งอยางนอยต้องมีบทบัญญัติ เกี่ยวกับการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องกําหนดให้เป็นไปโดยเปดเผยและตรวจสอบได้ เปดโอกาสให้สมาชิก มีสวนรวมอยางกวางขวางในการกําหนดนโยบายและการสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง และกําหนดมาตรการ ให้สามารถดําเนินการโดยอิสระไม่ถูกครอบงําหรือชี้นําโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น รวมทั้งมาตรการกํากับดูแลมิให้สมาชิกของพรรคการเมืองกระทําการอันเป็นการฝาฝนหรือไม่ปฏิบัติ ตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ” มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91 เป็นบทบัญญัติในหมวด 7 รัฐสภา สวนที่ 2 สภาผู้แทนราษฎร มาตรา 83 วรรคหนึ่ง บัญญัติวา “ สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจํานวนหารอยคน โดยเป็นสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้ง แบบแบงเขตเลือกตั้งจํานวนสี่รอยคน และสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจํานวนหนึ่งรอยคน ” วรรคสอง บัญญัติวา “ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ใชวิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ โดยให้ใชบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละหนึ่งใบ ” วรรคสาม บัญญัติวา “ ในกรณีที่ ตําแหนงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรวางลงไม่วาด้วยเหตุใด และยังไม่มีการเลือกตั้งหรือประกาศชื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตําแหนงที่วาง ให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เทาที่มีอยู่ ” วรรคสี่ บัญญัติวา “ ในกรณีมีเหตุใด ๆ ที่ทําให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ มีจํานวนไม่ถึงหนึ่งรอยคน ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อประกอบด้วยสมาชิกเทาที่มีอยู่ ” มาตรา 86 บัญญัติวา “ การกําหนดจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และการแบงเขตเลือกตั้ง ให้ดําเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี้ (1) ให้ใชจํานวนราษฎรทั้งประเทศ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปสุดทายกอนปที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสี่รอยคน จํานวนที่ได้รับให้ถือวาเป็นจํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน (2) จังหวัดใดมีราษฎรไม่ถึงเกณฑจํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคนตาม (1) ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดนั้นได้หนึ่งคน โดยให้ถือเขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง (3) จังหวัดใดมีราษฎรเกินจํานวนราษฎร ต่อสมาชิกหนึ่งคน ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนทุกจํานวนราษฎร ที่ถึงเกณฑจํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ่งคน (4) เมื่อได้จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัด ตาม (2) และ (3) แล้ว ถาจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ครบสี่รอยคน จังหวัดใดมีเศษ ที่เหลือจากการคํานวณตาม (3) มากที่สุด ให้จังหวัดนั้นมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน และให้เพิ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการดังกลาวแกจังหวัดที่มีเศษที่เหลือจากการคํานวณนั้น ้ หนา 40 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ในลําดับรองลงมาตามลําดับจนครบจํานวนสี่รอยคน (5) จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เกินหนึ่งคน ให้แบงเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเทาจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี โดยต้องแบงพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจํานวนราษฎรในแต่ละเขตใกลเคียงกัน ” มาตรา 90 วรรคหนึ่ง บัญญัติวา “ พรรคการเมืองใดสงผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้งแล้ว ให้มีสิทธิสงผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อได้ ” วรรคสอง บัญญัติวา “ การสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคการเมืองจัดทําบัญชีรายชื่อพรรคละหนึ่งบัญชี โดยผู้สมัครรับเลือกตั้ง ของแต่ละพรรคการเมืองต้องไม่ซ้ํากัน และไม่ซ้ํากับรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง โดยสงบัญชีรายชื่อดังกลาวให้คณะกรรมการการเลือกตั้งกอนปดการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบงเขตเลือกตั้ง ” วรรคสาม บัญญัติวา “ การจัดทําบัญชีรายชื่อตามวรรคสอง ต้องให้สมาชิก ของพรรคการเมืองมีสวนรวมในการพิจารณาด้วย โดยต้องคํานึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคตาง ๆ และความเทาเทียมกันระหวางชายและหญิง ” มาตรา 91 วรรคหนึ่ง บัญญัติวา “ การคํานวณสัดสวน ผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้ง ให้นําคะแนนที่แต่ละพรรคการเมือง ได้รับการเลือกตั้งมารวมกันทั้งประเทศแล้วคํานวณเพื่อแบงจํานวนผู้ที่จะได้รับเลือกของแต่ละพรรคการเมือง เป็นสัดสวนที่สัมพันธกันโดยตรงกับจํานวนคะแนนรวมขางตน โดยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งมีรายชื่อ ในบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตามเกณฑคะแนนที่คํานวณได้เรียงตามลําดับหมายเลข ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้น ” วรรคสอง บัญญัติวา “ หลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไข ในการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ การออกเสียงลงคะแนน การนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลการเลือกตั้ง และการอื่นที่เกี่ยวของ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ” และมาตรา 258 เป็นบทบัญญัติ ในหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ โดยบัญญัติวา “ ให้ดําเนินการปฏิรูปประเทศอยางนอยในดานตาง ๆ ให้เกิดผล ดังต่อไปนี้ ก. ดานการเมือง… (2) ให้การดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองเป็นไป โดยเปดเผยและตรวจสอบได้ เพื่อให้พรรคการเมืองพัฒนาเป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน ซึ่งมีอุดมการณทางการเมืองรวมกัน มีกระบวนการให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมและมีความรับผิดชอบ อยางแทจริงในการดําเนินกิจกรรมทางการเมืองและการคัดเลือกผู้มีความรูความสามารถ ซื่อสัตยสุจริต และมีคุณธรรมจริยธรรม เขามาเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม… ” ้ หนา 41 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มีเหตุผล ในการตราดังนี้ “ โดยที่บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 กําหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนหารอยคน โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้งจํานวนสี่รอยคน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจํานวนหนึ่งรอยคน และให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบ ที่ให้ประชาชนมีสิทธิในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขต การกําหนดจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและการแบงเขตเลือกตั้ง การคํานวณสัดสวนผู้สมัครรับเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อ ของแต่ละพรรคการเมืองที่จะได้รับเลือกตั้งที่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองและเคารพสิทธิและเสียง ของประชาชน จึงสมควรแกไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในสวนที่เกี่ยวของกับคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมือง การสงผู้สมัครรับเลือกตั้ง การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ” กรณีรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 ให้ยกเลิกความใน (15) ของวรรคหนึ่งของมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “(15) รายได้ของพรรคการเมือง และอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคกา รเมือง ซึ่งต้องเรียกเก็บจากสมาชิกไม่นอยกวาปละยี่สิบบาท ” และรางมาตรา 4 ให้ยกเลิกความในวรรคสี่ของมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “ พรรคการเมืองอาจกําหนดให้เรียกเก็บคาบํารุงพรรคการเมืองจากสมาชิกแบบตลอดชีพ ตามอัตราที่กําหนดในขอบังคับก็ได้ แต่ต้องไม่นอยกวาสองรอยบาท ” ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา รางมาตรา 3 ที่ปรับลดอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมือง ซึ่งต้องเรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมืองจากปละไม่นอยกวาหนึ่งรอยบาท เป็นปละไม่นอยกวายี่สิบบาท และรางมาตรา 4 ที่ปรับลดอัตราคาบํารุงพรรคการเมืองจากสมาชิกพรรคการเมืองแบบตลอดชีพ ้ หนา 42 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
จากไม่นอยกวาสองพันบาท เป็นไม่นอยกวาสองรอยบาท ทําให้เกิดการจางคนเขาไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยกลุ่มทุนออกเงินให้ สงผลให้กลุ่มทุนอาจเขาครอบงําหรือชี้นําพรรคการเมือง ขัดหรือแยงต่อเจตนารมณ ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมในการเป็นเจ้าของพรรคการเมือง และมีความรับผิดชอบที่ตนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น เห็นวา การเรียกเก็บคาธรรมเนียมและคาบํารุง พรรคการเมืองมีจุดประสงคหลักเพื่อให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวมเป็นเจ้าของพรรคการเมือง และมีความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองที่ตนเป็นสมาชิก และเพื่อมิให้มีกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคลหนึ่ง เป็นเจ้าของพรรคการเมืองเทานั้น โดยรัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเรื่อง การเก็บคาธรรมเนียมและคาบํารุง พรรคการเมืองไววาจะต้องเก็บในอัตราเทาใด อัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมืองจะมีจํานวนเทาใด เป็นอํานาจของรัฐสภากําหนดให้เหมาะสมแกสภาพความเป็นจริงของสังคม หากกําหนดสูงเกินไป อาจเป็นเหตุกีดกันประชาชนไม่ให้เขาไปมีสวนรวมในกิจกรรมพรรคการเมือง การที่รางมาตรา 3 และรางมาตรา 4 กําหนดอัตราคาธรรมเนียมและคาบํารุงพรรคการเมืองที่เรียกเก็บจากสมาชิกพรรคการเมือง เป็นการกําหนดอัตราขั้นต่ําไวในกฎหมาย โดยการปรับลดอัตราคาบํารุงพรรคการเมือง เพื่อไม่เป็นการสรางภาระ ต่อประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองมากเกินสมควร โดยกําหนดอัตราที่สามารถชําระคาธรรมเนียม และคาบํารุงพรรคการเมืองได้ด้วยตนเอง ประชาชนจึงเป็นสมาชิกพรรคการเมืองงายขึ้น และมีสวนรวมทางการเมือง กับพรรคการเมืองได้มากขึ้น ทําให้สมาชิกพรรคการเมืองรูสึกวาตนเป็นเจ้าของหรือเป็นสวนหนึ่งของพรรคการเมือง มีความรับผิดชอบต่อการดําเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองอยางแทจริง มีความเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงําหรือชี้นําโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมือง และปราศจากการแทรกแซงจากกลุ่มทุน ของพรรคการเมือง หากมีกรณีการจางเพื่อจูงใจให้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองตำมที่ผู้เขาชื่อเสนอ ความเห็นกลาวอางนั้น บทบัญญัติในมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 บัญญัติขอหามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาวาจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชนอื่นใด ไม่วาโดยทางตรงหรือโดยทางออมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเขาเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เวนแต่สิทธิหรือประโยชนซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะที่เป็นสมาชิก โดยหากผู้ใดฝาฝนบทบัญญัติดังกลาว มาตรา 109 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหาปหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดหาป เห็นได้วา บทบัญญัติแห่งกฎหมาย ได้กําหนดให้มีมาตรการกํากับควบคุมมิให้มีการจางเพื่อจูงใจให้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองไวแล้ว ้ หนา 43 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
รางมาตรา 3 และรางมาตรา 4 จึงไม่ขัดต่อเจตนารมณของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้สมาชิกพรรคการเมือง มีสวนรวมในการเป็นเจ้าของพรรคการเมืองและมีความรับผิดชอบที่ตนเป็นสมาชิกพรรคการเมือง อยางแทจริง และไม่มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) กรณีรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 24 สมาชิกต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องหามตามที่กําหนดในขอบังคับ ซึ่งอยางนอยต้องมีอายุไม่ต่ํากวาสิบแปดป และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องหาม ดังต่อไปนี้ (1) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด ในกรณีเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่นอยกวาหาป (2) ไม่เป็นบุคคลต้องหามมิให้ใชสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (11) (14) (16) (17) หรือ (18) ของรัฐธรรมนูญ (3) ไม่เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้จําคุกวากระทําความผิดต่อตําแหนงหน้าที่ราชการ หรือต่อตําแหนงหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายวาด้วยความผิดของพนักงาน ในองคการหรือหนวยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เวนแต่เป็นการรอการลงโทษ (4) ไม่เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที่สุดให้จําคุกวากระทําความผิดตามกฎหมายวาด้วยการกูยืมเงิน ที่เป็นการฉอโกงประชาชน กฎหมายวาด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นําเขา สงออก หรือผู้คา กฎหมายวาด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมายวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการคามนุษย หรือกฎหมายวาด้วยการปองกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิด ฐานฟอกเงิน (5) ไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นหรือผู้ยื่นคําขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองอื่น ตามมาตรา 11 หรือผู้แจงการเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นตามมาตรา 18 ” ้ หนา 44 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา รางมาตรา 5 ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องหาม ของสมาชิกพรรคการเมือง ทําให้ผู้ที่มีมลทินมัวหมองไม่เหมาะสมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองกรณีเคยต้องคําพิพากษา อันถึงที่สุดวากระทําความผิดตามที่บัญญัติไวในมาตรา 24 (3) หากไม่ถึงขั้นถูกจําคุกสามารถเขามาเป็น สมาชิกพรรคการเมืองได้ ขัดต่อเจตนารมณของรัฐธรรมนูญที่ประสงคพัฒนาพรรคการเมืองให้เป็นสถาบัน ทางการเมืองของประชาชนนั้น เห็นวา การแกไขเพิ่มเติมรางมาตรา 5 มีลักษณะเป็นการผอนปรน ลักษณะต้องหามของผู้ที่จะสมัครเขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองให้มีความเครงครัดนอยกวาผู้ที่จะใชสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) โดยการกําหนด ลักษณะต้องหามของสมาชิกพรรคการเมืองดังกลาวมีลักษณะเป็นการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เนื่องจากบุคคลทุกคนมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองรวมไปถึงมีสิทธิในการสมัครเขาเป็น สมาชิกพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 ที่บัญญัติรับรองสิทธิและเสรีภาพดังกลาว จึงต้องเป็นไปตามหลักความได้สัดสวน พอเหมาะพอควรแกกรณี และไม่กอให้เกิดภาระแกประชาชน เกินสมควรแกเหตุ เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหวางเจตนารมณของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 24 ในการกําหนดลักษณะต้องหามของผู้ที่จะเป็นสมาชิก พรรคการเมืองเพื่อให้ได้สมาชิกพรรคการเมืองที่สุจริต มีคุณธรรมและจริยธรรม กับสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลในการมีสวนรวมในทางการเมืองที่จะต้องสูญเสียไป จะเห็นได้วา การแกไขบทบัญญัติ แห่งกฎหมายดังกลาว โดยกําหนดให้ผู้ที่เคยต้องคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกวากระทําความผิด ต่อตําแหนงหน้าที่ราชการ หรือต่อตําแหนงหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมาย วาด้วยความผิดของพนักงานในองคการหรือหนวยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทําโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา หากเป็นกรณีที่รอการลงโทษจะสามารถเขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ เป็นไปตามหลักความได้สัดสวนและพอเหมาะพอควรแกกรณี ประกอบกับสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้มีอํานาจหน้าที่โดยตรงอันสงผลกระทบต่อประโยชนสาธารณะ แตกตางจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ใชอํานาจอธิปไตยแทนปวงชนชาวไทย ยอมต้องได้รับการกลั่นกรองคุณสมบัติและลักษณะต้องหาม ยิ่งกวาการเขาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง รางมาตรา 5 จึงไม่มีขอความที่ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) กรณีรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 6 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน ้ หนา 45 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
“ มาตรา 35 ในจังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้งสาขาพรรคการเมือง ถาพรรคการเมืองนั้นมีสมาชิก ซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในจังหวัดนั้นเกินหนึ่งรอยคน พรรคการเมืองนั้นอาจแต่งตั้งสมาชิกซึ่งมีภูมิลําเนา อยู่ในจังหวัดนั้นซึ่งมาจากการเลือกของสมาชิกดังกลาวให้เป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดได้ ตามจํานวนที่เห็นสมควรเพื่อดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในจังหวัดนั้น และให้นําความในมาตรา 34 มาใชบังคับแกตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดด้วยโดยอนุโลม ” ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา รางมาตรา 6 ที่กําหนดเงื่อนไขของสมาชิกพรรคการเมือง วาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งมีภูมิลําเนาอยู่ในจังหวัด แต่ไม่กําหนดให้ต้องอยู่ในเขตเลือกตั้งในจังหวัด ขัดหรือแยงกับเจตนารมณของรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น เห็นวา การที่รางมาตรา 6 กําหนดให้ใชเขตจังหวัดกําหนดตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัดแทนการใชเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้ง ทําให้สมาชิกพรรคการเมืองในแต่ละจังหวัด สามารถประชุมหรือรวมตัวกันเพื่อดําเนินกิจกรรมทางการเมืองได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัดสามารถเป็นตัวแทนของประชาชนในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบงเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อในเขตเลือกตั้งตามหลักการมีสวนรวมของประชาชนอยางแทจริง ชวยสงเสริมให้สมาชิก พรรคการเมืองมีสวนรวมในการดําเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองอยางกวางขวาง ไม่ถูกจํากัดแต่เฉพาะเขตเลือกตั้ง ที่สมาชิกพรรคการเมืองมีภูมิลําเนาในเขตเลือกตั้งเทานั้น จึงไม่ขัดหรือแยงต่อเจตนารมณของรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) กรณีรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 47 พรรคการเมืองซึ่งประสงคจะสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในจังหวัดใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัดในจังหวัดนั้น ในกรณีที่พรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคการเมืองมากกวาหนึ่งสาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดมากกวาหนึ่งตัวแทนในจังหวัดใด ให้พรรคการเมืองนั้น กําหนดวาจะให้สาขาพรรคการเมืองสาขาใดหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดใดในจังหวัดนั้น เป็นสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดเพื่อดําเนินการตามมาตรา 50 ” ้ หนา 46 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา รางมาตรา 7 ที่กําหนดให้พรรคการเมืองที่ประสงค จะสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในจังหวัดใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดในจังหวัดนั้น โดยไม่ต้องมีเขตพื้นที่รับผิดชอบ ในเขตเลือกตั้งนั้น และตัดหลักเกณฑการสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง ที่กําหนดให้ต้องสงผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในแต่ละเขตเลือกตั้งนั้นออก ไม่เป็นไปตามเจตนารมณของรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ที่ประสงคให้สมาชิกพรรคการเมือง ต้องมีสวนรวมอยางกวางขวางในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น เห็นวา การกําหนดเงื่อนไขตามรางมาตรา 7 ทําให้พรรคการเมืองสามารถดําเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง ได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น ซึ่งเป็นการขยายโอกาสให้แกสมาชิกพรรคการเมืองพิจารณาสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งในเขตจังหวัดนั้นได้ทุกเขตเลือกตั้ง มิได้จํากัดเฉพาะเขตเลือกตั้งที่สมาชิกมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตเลือกตั้งเทานั้น อันมีลักษณะเป็นการผอนปรน เงื่อนไขในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งของพรรคการเมือง เป็นการสงเสริมให้ประชาชนมีสวนรวมในการดําเนินกิจกรรมทางการเมืองอยางแทจริง จึงไม่มีขอความ ขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) สวนกรณีรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 9 ให้ยกเลิกความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 50 การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง ให้ดําเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี้ (1) ให้คณะกรรมการสรรหากําหนดวัน เวลา และสถานที่ในการสมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง และประกาศให้สมาชิกทราบเป็นการทั่วไป (2) เมื่อพนกําหนดเวลารับสมัครตาม (1) ให้คณะกรรมการสรรหาตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องหามของผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้ง แล้วสงรายชื่อผู้สมัครให้สาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ้ หนา 47 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
(3) เมื่อสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดได้รับรายชื่อผู้สมัคร จากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ให้หัวหน้าสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด จัดการประชุมสมาชิกเพื่อรับฟงความคิดเห็นและให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ ตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด (4) ให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดสงรายชื่อผู้สมัคร ในแต่ละเขตเลือกตั้งทั้งที่ได้รับความเห็นชอบและไม่ได้รับความเห็นชอบพรอมความคิดเห็นตาม (3) ให้คณะกรรมการสรรหาเพื่อพิจารณาเสนอความคิดเห็น (5) ให้คณะกรรมการสรรหาสงรายชื่อผู้สมัครของแต่ละเขตเลือกตั้งพรอมความคิดเห็น ตาม (3) และ (4) ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะเสนอให้เป็น ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ” และรางมาตรา 10 ให้ยกเลิกความในมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และให้ใชความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 51 การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ให้ดําเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี้ (1) ให้คณะกรรมการสรรหากําหนดวัน เวลา และสถานที่ในการสมัครและการเสนอรายชื่อบุคคล เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง และมีหนังสือแจงไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด และประกาศให้สมาชิกทราบเป็นการทั่วไป (2) ให้กรรมการบริหารพรรคการเมือง หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัด เสนอรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อให้คณะกรรมการสรรหา (3) เมื่อพนกําหนดเวลารับสมัครและเสนอรายชื่อตาม (1) แล้ว ให้คณะกรรมการสรรหา ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องหามและจัดทําบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่เกินหนึ่งรอยรายชื่อ โดยต้องคํานึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคตาง ๆ และความเทาเทียมกันระหวางชายและหญิง แล้วสงบัญชีรายชื่อดังกลาวให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด (4) เมื่อสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดได้รับบัญชีรายชื่อผู้สมัคร รับเลือกตั้งตาม (3) จากคณะกรรมการสรรหาแล้ว ให้หัวหน้าสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ้ หนา 48 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ประจําจังหวัด จัดการประชุมสมาชิกเพื่อรับฟงความคิดเห็นและให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ ตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาสงมา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑและวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด แล้วสงบัญชีรายชื่อดังกลาวทั้งที่ได้รับความเห็นชอบและไม่ได้รับความเห็นชอบพรอมความคิดเห็น ให้คณะกรรมการสรรหาเพื่อพิจารณาจัดทําบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งพรอมเสนอความคิดเห็น (5) ให้คณะกรรมการสรรหาสงบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งพรอมความคิดเห็นตาม (4) ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อแล้วจัดลําดับตามที่เห็นวาเหมาะสมเพื่อให้ได้บัญชีรายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อประโยชนในการสงเสริมการมีสวนรวมของสมาชิก ในกรณีที่สมาชิกผู้ใดมีภูมิลําเนา อยู่ในจังหวัดที่ยังมิได้มีการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัด ให้สามารถใชสิทธิการเป็นสมาชิกในจังหวัดใกลเคียงที่มีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมือง ประจําจังหวัด ตามที่กําหนดในขอบังคับ ” ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา รางมาตรา 9 ที่กําหนดกระบวนการสรรหาผู้สมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง และรางมาตรา 10 ที่กําหนดกระบวนการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ โดยตัดอํานาจการมีสวนรวมของสมาชิก พรรคการเมืองในการสงผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรออก ขัดหรือแยงต่อเจตนารมณ ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 90 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) นั้น เห็นวา การมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมืองในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งแบงออกเป็นหลายรูปแบบ ทั้งการมีสวนรวมโดยการรับฟงความคิดเห็นหรือการลงคะแนนเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยมีวัตถุประสงค เพื่อเปดโอกาสให้สมาชิกพรรคการเมืองได้มีสวนรวมทางการเมืองอยางแทจริงและกวางขวางในการคัดเลือกบุคคล ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การที่รางมาตรา 9 กําหนดกระบวนการมีสวนรวม ของสมาชิกพรรคการเมืองในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้ง โดยการจัดประชุมเพื่อพิจารณารายชื่อผู้สมัครในแต่ละเขตเลือกตั้งจะต้องเป็นรายชื่อผู้สมัครที่สมาชิก พรรคการเมืองให้ความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงไม่นอยกวากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกที่มาประชุม ในขณะเดียวกันการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ้ หนา 49 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้งจะต้องนําความคิดเห็นของสมาชิกพรรคการเมือง มาประกอบการพิจารณาด้วย ถือได้วากระบวนการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกลาวเป็นกระบวนการมีสวนรวม ของประชาชนอยางแทจริงในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากคณะกรรมการสรรหา ผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งประกอบด้วยตัวแทนของภาคประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองจํานวนที่มากกวา คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง โดยคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งมีที่มาจากการเลือก ของสมาชิกพรรคการเมืองที่รวมประชุมในที่ประชุมใหญพรรคการเมือง กรณีดังกลาวถือวาสมาชิกพรรคการเมือง มีสวนรวมในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งอยางกวางขวางผานทางคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจําจังหวัดแล้ว สําหรับรางมาตรา 10 ที่กําหนด กระบวนการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมืองในการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ โดยการพิจารณารายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จะต้องเป็นรายชื่อผู้สมัคร รับเลือกตั้งที่สมาชิกพรรคการเมืองให้ความเห็นชอบ ในขณะเดียวกันการพิจารณาให้ความเห็นชอบ และการจัดลําดับบุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกลาว จะต้องนําความคิดเห็นของสมาชิก พรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณาด้วย เป็นการดําเนินการให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสวนรวม ในการคัดเลือกและสงผู้สมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 90 วรรคสาม สวนที่กําหนดให้ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองซึ่งดําเนินการในรูปองคกรกลุ่มจัดการประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ บุคคลที่เหมาะสมเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อแล้วจัดลําดับ ตามที่เห็นวาเหมาะสม เนื่องจากการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สะทอนหลักการการเป็นตัวแทนของพรรคการเมือง จึงต้องการผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ครอบคลุมความเชี่ยวชาญ ในทุกดาน และทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อให้บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนาเชื่อถือและได้รับความนิยม จากประชาชนที่จะเลือกลงคะแนนเสียงให้แกพรรค จึงต้องกําหนดให้องคกรสูงสุดของพรรคการเมือง คือ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งมีหน้าที่และอํานาจในการบริหารพรรคการเมืองให้เป็น สถาบันทางการเมืองที่ได้รับการยอมรับจากสมาชิกพรรคการเมืองและประชาชน รวมทั้งหน้าที่ และอํานาจในการพิจารณาสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นลําดับสุดทาย โดยคัดเลือกบุคคลที่จะสงลงสมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในนามของพรรคการเมืองเพื่อให้กระบวนการสรรหาผู้สมัคร รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อซึ่งเป็นกระบวนการภายในของพรรคการเมือง ้ หนา 50 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
มีจุดสิ้นสุดอยางชัดเจน และกอให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ เมื่อพิจารณา ความมุงหมายตามหลักการและเหตุผลในการแกไขปรับปรุงรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ฉบับนี้ กรณีมีเหตุผลความจําเป็นและความเหมาะสมแกกรณีในการแกไขกระบวนการดังกลาว โดยยังคงให้ความสําคัญกับการมีสวนรวมของสมาชิกพรรคการเมืองในการเสนอความคิดเห็นและให้ความเห็นชอบ รายชื่อบุคคลที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบงเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ รางมาตรา 9 และรางมาตรา 10 จึงไม่มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) สวนที่ผู้เขาชื่อเสนอความเห็นกลาวอางวา การแกไขเพิ่มเติมรางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 เป็นการแกไขเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 บิดเบือนเจตนารมณของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น เห็นวา รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) พุทธศักราช 2564 มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 มีเจตนารมณเพื่อกําหนดจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้สอดคลองต่อจํานวนประชากรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ซึ่งการกําหนดให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีจํานวนสี่รอยคน ทําให้การดูแลปญหาของประชาชนใกลชิดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการคํานวณคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อจําเป็นต้องมีหลักเกณฑที่ชัดเจน และเป็นธรรมต่อพรรคการเมืองและต้องเคารพหลักการหนึ่งสิทธิหนึ่งเสียงของประชาชน โดยบัญญัติ แกไขเพิ่มเติมองคประกอบของสภาผู้แทนราษฎรและที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลักเกณฑ การคํานวณจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและการแบงเขตเลือกตั้ง หลักเกณฑ และวิธีการคํานวณหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง และแกไขบทบัญญัติ ของกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดําเนินกิจการของพรรคการเมือง ให้พรรคการเมืองสามารถปฏิบัติได้จริง ตามหลักเกณฑและวิธีการตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้อยางถูกต้อง กรณีสอดคลองกับหลักการในการสงเสริมให้พรรคการเมืองเกิดขึ้นและดํารงอยู่ได้ รางพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญที่มีการแกไขเพิ่มเติมดังกลาวจึงเป็นไปอยางสมเหตุสมผลเพื่อคุมครองเสรีภาพ ในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมือง ได้สัดสวนและมีความสมดุล ไม่เพิ่มภาระหรือจํากัดสิทธิหรือเสรีภาพ ้ หนา 51 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565
ของพรรคการเมืองเกินสมควรแกเหตุ สอดคลองกับทิศทางการพัฒนาพรรคการเมือง การแกไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 จึงไม่เกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ มาตรา 83 มาตรา 86 และมาตรา 91 อาศัยเหตุผลดังกลาวขางตน จึงวินิจฉัยวา รางพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 9 และมาตรา 10 ไม่มีขอความขัดหรือแยงต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 45 มาตรา 83 มาตรา 86 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 258 ก. ดานการเมือง (2) นายวรวิทย กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ นายนครินทร เมฆไตรรัตน์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายปญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายวิรุฬห แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศปราชญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ้ หนา 52 ่ เลม 139 ตอนที่ 77 ก ราชกิจจานุเบกษา 21 ธันวาคม 2565