Mon Dec 12 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

กฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 102 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478


กฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 102 (พ.ศ. 2565) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478

กฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 102 (พ.ศ. 2565) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 อําศัยอ ํานําจตํามควํามในมําตรํา 6 และมําตรํา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 นํายกรัฐมนตรีออกกฎสํานักนํายกรัฐมนตรีไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 3 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 3 เครื่องแบบพิเศษข้ํารําชกํารกรมรําชทัณฑ์ชําย มี 7 ชนิด คือ (1) เครื่องแบบปฏิบัติงําน ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงหม้อตําลสีกํากีหรือหมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ํา (ข) เสื้อคอพับสีกํากี (ค) กํางเกงขํายําวสีกํากี (ง) เข็มขัดหนังสีดําหรือเข็มขัดด้ํายถักสีดํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (2) เครื่องแบบปฏิบัติ กํารสีกรมท่ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอเปิดสีกรมท่ํา (ค) กํางเกงขํายําวสีกรมท่ํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา ้ หนา 1 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

(3) เครื่องแบบปฏิบัติกํารพิเศษ ประกอบด้วย (ก) หมวก ทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอเปิดสีด ํา (ค) กํางเกงขํายําวสีดํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (4) เครื่องแบบปฏิบัติงํานภํายในเรือนจ ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอพับสีกํากีอ่อน (ค) กํางเกงขํายําวสีกํากีดํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (5) เครื่องแบบปฏิบัติงํานภํายนอกเรือนจ ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อยืดคอโปโลสีเลือดหมู (ค) กํางเกงขํายําวสีกํากีดําหรือกํางเกงขํายําวสีกรมท่ํา (ง) เข็มขัดหนังสีดํา เข็มขัดด้ํายถักสีดํา หรือเข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหรือรองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (6) เครื่องแบบกองเกียรติยศรําชทั ณฑ์ ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงหม้อตําลสีกํากี (ข) เสื้อคอพับสีกํากี (ค) ผ้ําผูกคอสีแดงเลือดหมู มีตรําพระยมทรงสิงห์ที่มุมสํามเหลี่ยมด้ํานหลัง (ง) กํางเกงขํายําวสีกํากี (จ) เข็มขัดหนังสีดําหรือเข็มขัดด้ํายถักสีดํา (ฉ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมห นังสีด ํา (ช) ถุงมือสีขําว (7) เครื่องแบบพิธีกําร ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงหม้อตําลสีกํากี (ข) เสื้อชั้นนอกคอแบะสีกํากี (ค) เสื้อคอพับสีขําวแขนยําว (ง) ผ้ําผูกคอสีดํา (จ) กํางเกงขํายําวสีกํากี (ฉ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา ” ้ หนา 2 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

ข้อ 2 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 5 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 5 เสื้อ มี 6 แบบ คือ (1) เสื้อคอพับสีกํากี แขนยําวรัดข้อมือ มีดุมที่ข้อมือข้ํางละ 1 ดุม ที่อกเสื้อมีกระเป๋ําสองข้ําง ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําสี่เหลี่ยมมุมมนมีแถบอยู่ตรงกลํางตํามแนวดิ่ง กว้ําง 3.5 เซนติเมตร มีใบปกกระเป๋ํารูปมนชํายกลํางแหลม ขัดดุมข้ํางละ 1 ดุม ตัวเสื้อผ่ําอกตลอด มีสําบกว้ําง 3.5 เซนติเมตร ติดดุมตํามแนวอกเสื้อ 5 ดุม ระยะห่ํางกันพอสมควร ดุมทั้งหมดเป็นดุมกลมแบนท ําด้วย วัตถุสีเดียวกับ สีเสื้อ เมื่อสวมเสื้อให้ขัดดุมทุกดุม ยกเว้นดุมบนสุดที่อกเสื้อติดกับคอ และให้สอดชํายเสื้อไว้ในกํางเกง ส ําหรับข้ํารําชกํารที่ได้รับมอบหมํายให้ท ําหน้ําที่กองเกียรติยศ ให้ผูกผ้ําผูกคอสีแดงเลือดหมู รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ํา กว้ําง 25 เซนติเมตร ยําว 40 เซนติเมตร มีตรําพระยมทรงสิงห์ปักด้วยไหมสีทอง อยู่ที่กึ่งกลํางผ้ํา ผูกเป็นเงื่อนกะลําสีและสอดปลํายผ้ําไว้ในตัวเสื้อ (2) เสื้อคอเปิดสีกรมท่ํา มี 4 กระเป๋ํา ตัวเสื้อปล่อยยําวถึงสะโพก ปกเสื้อแบะมุมปกแหลม สํามํารถปรับเป็นคอตั้งได้ ตัวเสื้อด้ํานหน้ําผ่ําตลอดไม่มีสําบเ สื้อ ติดซิบหรือขัดกระดุม (แบบซ่อนกระดุม) แขนเสื้อยําวรูปทรงกระบอก ที่แขนเสื้อเหนือข้อศอกทั้งสองข้ําง มีกระเป๋ําปะขนําดเล็กขยํายได้ มีใบปก กระเป๋ํารูปสี่เหลี่ยมขัดดุม 1 ดุม มีผ้ําปะรองข้อศอกที่แขนเสื้อทั้งสองข้ําง ตรงด้ํานในชิดตัว ติดแผ่นรัดข้อมือ ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 10 เซนติเมตร ห่ํางจํากปลํายแขนเสื้อพองําม ชํายเป็นรูปเหลี่ยมชี้ไปทํางด้ํานหลังขัดดุม 1 ดุม ติดกับแขนเสื้อในแนวเดียวกันมีดุมอีก 1 ดุม สําหรับรัดปลําย แขนเสื้อ ตัวเสื้อด้ํานหน้ํามีกระเป๋ําบนและล่ํางข้ํางละ 2 กระเป๋ํา ไม่มีแถบ ชํา ยข้ําง ทั้งสองข้ํางพับจีบเพื่อให้ขยํายได้ ชํายล่ํางเย็บติดกับตัวเสื้อ มีใบปกกระเป๋ํารูปสี่เหลี่ยมขัดดุม 2 ดุม กระเป๋ําบน เป็นกระเป๋ําปะเฉียง ใบปกกระเป๋ําบนอยู่ด้ํานในติดกับแนวสําบเสื้อ และปักชื่อหน่วยปฏิบัติงํานที่สังกัด เหนือกระเป๋ําบนซ้ํายด้วยไหมสีทอง กระเป๋ําล่ํางให้ชํายล่ํางของกระเป๋ําอยู่ชิดกับตะเข็บชํายเสื้อ ตัวเสื้อด้ํานหลังในแนวเอวติดแผ่นรัดเอว ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 10 เซนติเมตร 2 แผ่น ชํายเป็นรูปเหลี่ยม ชี้ไปทํางด้ํานหลังขัดดุม 1 ดุม ติดกับตัวเสื้อในแนวเดียวกัน มีดุมที่ตะเข็บข้ํางอีก ข้ํา งละ 1 ดุม ส ําหรับรัดเอว ที่ตะเข็บข้ํางตัวเสื้อด้ํานซ้ํายมีที่เหน็บปํากกํา ดุมทั้งหมดเป็นรูปกลมแบน ขนําดเส้นผ่ํานศูนย์กลําง 2 เซนติเมตร ท ําด้วยวัตถุสีเดียวกับสีเสื้อ รังดุมทั้งหมดซ่อนไว้ภํายในเสื้อและ ด้ํานในของใบปกกระเป๋ํา เมื่อสวมเสื้อนี้ให้ปล่อยชํายเสื้อไว้น อกกํางเกง นอกจํากนี้ จะใช้แถบแปรงไนล่อน แทนกํารขัดดุมก็ได้ (3) เสื้อคอเปิดสีด ํา มีลักษณะเช่นเดียวกับ (2) (4) เสื้อคอพับสีกํากีอ่อน แขนสั้นเหนือศอกเล็กน้อย ตัวเสื้อเป็นผ้ําสีกํากีอ่อนตัดเย็บด้วย ผ้ําเนื้อบําง ที่อกเสื้อมีกระเป๋ําสองข้ําง ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําสี่เหลี่ยมมุมมนมีแถบอยู่ตรงกลําง ้ หนา 3 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

ตํามแนวดิ่ง กว้ําง 3.5 เซนติเมตร มีใบปกกระเป๋ํารูปมนชํายกลํางแหลม ขัดดุมข้ํางละ 1 ดุม และปักชื่อหน่วยปฏิบัติงํานที่สังกัดเหนือกระเป๋ําบนซ้ํายด้วยไหมสีด ํา ตัวเสื้อผ่ําอกตลอด มีสําบ กว้ําง 3.5 เซนติเมตร ติดดุมตําม แนวอกเสื้อ 5 ดุม ระยะห่ํางกันพอสมควร ดุมทั้งหมดเป็นรูปกลมแบน ท ําด้วยวัตถุสีเดียวกับสีเสื้อ ที่ไหล่มีอินทรธนูอ่อนทําด้วยผ้ําสีกํากีอ่อนเย็บติดกับไหล่เสื้อเหนือบ่ํา ทั้งสองข้ํางจํากไหล่ไปคอ ปลํายตัดเป็นมุมแหลมและขัดดุมติดกับตัวเสื้อ ด้ํานไหล่ กว้ําง 5 เซนติเมตร ด้ํานคอ กว้ําง 4 เซนติเมตร ยําว 13 เซนติเมตร ที่ต้นแขนเสื้อด้ํานซ้ํายปักตรําพระยมทรงสิงห์ ด้วยไหมสีทอง เมื่อสวมเสื้อให้ขัดดุมทุกดุม ยกเว้นดุมบนสุดที่อกเสื้อติดกับคอ และให้สอดชํายเสื้อ ไว้ ในกํางเกง ส ําหรับข้ํารําชกํารที่ได้รับกํารแต่งตั้งให้ท ําหน้ําที่ พัศดีเวรและเวรผู้ใหญ่ ให้มีเครื่องหมํายแสดงตัว เมื่อเข้ําเวรรักษํากํารณ์ เป็นปลอกแขนท ําด้วยสักหลําดสีแดงเลือดหมู กว้ําง 10 เซนติเมตร มีอักษรสีขําว ค ําว่ํา “ พัศดีเวร ” หรือ “ เวรผู้ใหญ่ ” สูง 6 เซนติเมตร สวมที่แขนเสื้อข้ํางขวําระหว่ําง ไหล่กับข้อศอก ให้ตัวอักษรอยู่ด้ํานนอกมองเห็นได้ง่ําย (5) เสื้อยืดคอโปโลสีเลือดหมู ที่อกเสื้อด้ํานขวําปักชื่อตัวและชื่อสกุลด้วยไหมสีทอง ที่อกเสื้อด้ํานซ้ํายปักชื่อหน่วยปฏิบัติงํานที่สังกัดด้วยไหมสีทอง ติดเครื่องหมํายอําร์มรําชทัณฑ์ตํามข้อ 21 ที่หน้ํากระเป๋ําเสื้อด้ํานซ้ําย และ ประดับเครื่องหมํายตําแหน่งตํามข้อ 19 ที่สําบเสื้อด้ํานหน้ําใต้กระดุมเสื้อ แนวเดียวกับปํากกระเป๋ําเสื้อ (6) เสื้อชั้นนอกคอแบะสีกํากี แขนยําวถึงข้อมือ มีตะเข็บหลัง 3 ตะเข็บ ที่ตะเข็บกลําง เปิดชํายเสื้อไว้ถึงแนวเอว ที่แนวอกมีดุมโลหะสีทองตรําครุฑพ่ําห์ขนําดใหญ่ 4 ดุ ม ด้ํานหน้ํามีกระเป๋ํา บนและล่ําง ข้ํางละ 2 กระเป๋ํา กระเป๋ําบนเป็นกระเป๋ําปะมีแถบตรงกลํางตํามแนวดิ่ง กว้ําง 3.5 เซนติเมตร มีใบปกกระเป๋ํารูปมนชํายกลํางแหลม กระเป๋ําล่ํางเป็นกระเป๋ําย่ําม มีใบปกกระเป๋ํารูปตัดชํายมน ใบปกกระเป๋ําทั้งสี่ขัดดุมโลหะสีทองขนําดกลําง กระเป๋ําละ 1 ดุม เสื้อแบบนี้ให้ใช้กับเสื้อคอพับสีขําว แขนยําว ผูกผ้ําผูกคอสีด ําเงื่อนกะลําสีและให้สอดชํายผ้ําผูกคอไว้ในเสื้อใต้ดุมเม็ดที่สอง ” ข้อ 3 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 10 แห่งกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 10 เครื่องแบบพิเศษข้ํารําชกํารกรมรําชทัณฑ์หญิง มี 7 ชนิด คือ (1) เครื่องแบบปฏิบัติงําน ประกอบด้วย (ก) หมวกพับปีกสีกํากีหรือหมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ํา (ข) เสื้อคอพับสีกํากี (ค) กระโปรงสีกํากี (ง) เข็มขัดหนังสีดําหรือเข็มขัดด้ํายถักสีดํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา ้ หนา 4 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

(2) เครื่องแบบปฏิบัติกํารสีกรมท่ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอเปิดสีกรมท่ํา (ค) กํางเกงขํายําวสีกรมท่ํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (3) เครื่องแบบปฏิบัติกํารพิเศษ ประกอ บด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรือหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอเปิดสีด ํา (ค) กํางเกงขํายําวสีดํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (4) เครื่องแบบปฏิบัติงํานภํายในเรือนจ ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกทรงอ่อนสักหลําดสีด ําหรื อหมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อคอพับสีกํากีอ่อน (ค) กํางเกงขํายําวสีกํากีดํา (ง) เข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (5) เครื่องแบบปฏิบัติงํานภํายนอกเรือนจ ํา ประกอบด้วย (ก) หมวกแก๊ปทรงอ่อนสีด ํา (ข) เสื้อยืดคอโปโลสีเลือดหมู (ค) กํางเกงขํายําวสีกํากีดําหรือกํางเกงขํายําวสีกรมท่ํา (ง) เข็มขัดหนังสีดํา เข็มขัดด้ํายถักสีดํา หรือเข็มขัดสนํามสีด ํา (จ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหรือรองเท้ําสูงครึ่งน่องหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (6) เครื่องแบบกองเกียรติยศรําชทัณฑ์ ป ระกอบด้วย (ก) หมวกพับปีกสีกํากี (ข) เสื้อคอพับสีกํากี (ค) ผ้ําผูกคอสีแดงเลือดหมู มีตรําพระยมทรงสิงห์ที่มุมสํามเหลี่ยมด้ํานหลัง (ง) กระโปรงสีกํากี (จ) เข็มขัดหนังสีดําหรือเข็มขัดด้ํายถักสีดํา (ฉ) รองเท้ําหุ้มส้นหรือหุ้มข้อหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา (ช) ถุงมือสีขําว ้ หนา 5 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

(7) เครื่องแบบพิธีกําร ประกอบด้วย (ก) หมวกพับปีกสีกํากี (ข) เสื้อชั้นนอกคอแบะสีกํากี (ค) เสื้อคอพับสีขําวแขนยําว (ง) ผ้ําผูกคอสีดํา (จ) กระโปรงสีกํากี (ฉ) รองเท้ําหุ้มส้นหนังหรือวัตถุเทียมหนังสีดํา ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 12 แห่งกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติ เครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุท ธศักรําช 2478 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 12 เสื้อ มี 6 แบบ คือ (1) เสื้อคอพับสีกํากี มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 5 (1) สําหรับข้ํารําชกํารที่ได้รับมอบหมําย ให้ท ําหน้ําที่กองเกียรติยศ ให้ผูกผ้ําผูกคอสีแดงเลือดหมู มีลักษณะเช่นเดียวกับข้ํารําชกํารชําย (2) เสื้อคอเปิดสีกรมท่ํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 5 (2) (3) เสื้อคอเปิดสีด ํา มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 5 (3) (4) เสื้อคอพับสีกํากีอ่อน มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 5 (4) เว้นแต่อินทรธนูอ่อน ให้ด้ํานไหล่ กว้ําง 4.5 เซนติเมตร ด้ํานคอ กว้ําง 3.5 เซนติเมตร ยําว 11 เซนติเมตร สําหรับข้ํารําชกําร ที่ได้รับกํารแต่งตั้งให้ทําหน้ําที่พัศดีเวรและเวรผู้ใหญ่ ให้มีเครื่องหมํายแสดงตัวเมื่อเข้ําเวรรักษํากํารณ์ เป็นปลอกแขนมีลักษณะเช่นเดียวกับข้ํารําชกํารชําย (5) เสื้อยืดคอโปโลสีเลือดหมู มีลักษณะเช่นเดียวกับข้อ 5 (5) (6) เสื้อชั้นนอกคอแบะสีกํากี แขนยําวถึงข้อมือ มีตะเข็บหลัง 3 ตะเข็บ ที่ตะเข็บกลําง เปิดชํายเสื้อไว้ถึงแนวเอว ที่แนวอกมีดุมโลหะสีทองตรําครุฑพ่ําห์ขนําดใหญ่ 3 ดุม และมีกระเป๋ําล่ําง ข้ํางละ 1 กระเป๋ํา เป็นกระเป๋ําเจําะ ไม่มีใบปกกระเป๋ํา เสื้อแบบนี้ให้ใช้กับเสื้อ คอพับสีขําวแขนยําว ผูกผ้ําผูกคอสีด ําเงื่อนกะลําสี และให้สอดชํายผ้ําผูกคอไว้ในเสื้อใต้ดุมเม็ดที่สอง ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกควํามในวรรคสํามของข้อ 18 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตํามควํามใน พระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 และให้ใช้ควํามต่อไปนี้แทน “ อินทรธนูแข็งให้ใช้กับเสื้อตํามข้อ 5 (1) และ (6) และข้อ 12 (1) และ (6) ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกควํามในข้อ 20 ข้อ 21 และข้อ 21/1 แห่งกฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน ้ หนา 6 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

พุทธศักรําช 2478 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎส ํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 98 (พ.ศ. 2559) ออกตําม ควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกํารฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 และให้ใช้ ควํามต่อไปนี้แทน “ ข้อ 20 เครื่องหมํายแสดงสังกัด เป็นตรําพระดุลพ่ําห์ ทําด้วยโลหะสีทอง สําหรับเสื้อ ตํามข้อ 5 (1) และ (6) และข้อ 12 (1) และ (6) ประดับที่มุมปกคอเสื้อทั้ง 2 ข้ําง ส ําหรับเสื้อ ตํามข้อ 5 (2) และ (3) และข้อ 12 (2) และ (3) ให้ปักตรําพระดุลพ่ําห์ด้วยไหมสีทอง บนผ้ํา สีเดียวกับเสื้อติดที่ปกคอเสื้อข้ํางขวํา ส ําหรับเสื้อตํามข้อ 5 (4) และข้อ 12 (4) ให้ปักตรําพระดุลพ่ําห์ ด้วยไหมสีดําบนผ้ําสีเดียวกับเสื้อติดที่มุมปก คอเสื้อทั้ง 2 ข้ําง ข้อ 21 เครื่องหมํายอําร์มรําชทัณฑ์ เป็นอําร์มรูปโล่สีเลือดหมู ตรงกลํางมีตรําพระยมทรงสิงห์ ปักด้วยดิ้นทองหรือวัตถุเทียมดิ้นทองบนพื้นสีดํา ด้ํานบนมีคําว่ํา “ กรมรําชทัณฑ์ ” ด้ํานล่ํางมีคําว่ํา “ DEPARTMENT OF CORRECTIONS ” สีทองขนํานไปกับขอบโค้งด้ํานล่ําง ติดที่ต้นแขนด้ํานซ้ําย ของ เสื้อตํามข้อ 5 (2) (3) และ (4) และข้อ 12 (2) (3) และ (4) สําหรับเสื้อตํามข้อ 5 (6) และข้อ 12 (6) ให้ติดเครื่องหมํายอําร์มรําชทัณฑ์ตํามวรรคหนึ่ง ที่ต้นแขนด้ํานซ้ํายของเสื้อ โดยขอบอําร์มปักด้วยดิ้นทองหรือวัตถุเทียมดิ้นทอง และขอบรอบวงกลม ปักด้วยดิ้นเงิน ข้อ 21/1 ป้ํายชื่อ มี 3 แบบ คือ (1) เครื่องแบบพิเศษตํามข้อ 3 (1) (6) และ (7) และข้อ 10 (1) (6) และ (7) ให้ใช้ป้ํายชื่อพื้นสีดําทําด้วยแผ่นโลหะหรือพลําสติก ขนําดกว้ํางไม่เกิน 2.5 เซนติเมตร ยําวไม่เกิน 7.5 เซนติเมตร แสดงชื่อตัว ชื่อรอง ชื่อสกุล และชื่อตําแหน่งในกํารบริหํารงํานหรือชื่อตําแหน่ง ในสํายงํานด้วยสีเงินหรือสีขําว โดยประดับที่อกเสื้อเหนือกระเป๋ําบนขวํา (2) เครื่องแบบพิเศษตํามข้อ 3 (2) และ (3) และข้อ 10 (2) และ (3) ให้ใช้ป้ํายชื่อ ทําด้วยแผ่นผ้ําสีเดียวกับเสื้อ ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําวไม่เกิน 12 เซนติเมตร ปักชื่อตัว ชื่อรอง และชื่อสกุล ตัวอักษรสูงไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร ด้วยไหมหรือด้ํายสีทอง โดยประดับที่อกเสื้อ เหนือกระเป๋ําบนขวํา (3) เครื่องแบบพิเศษตํามข้อ 3 (4) และข้อ 10 (4) ให้ใช้ป้ํายชื่อทําด้วยแผ่นผ้ําสีกํากีอ่อน ขนําดกว้ําง 4 เซนติเมตร ยําวไม่เกิน 12 เซนติเมตร ปักชื่อตัว ชื่อรอง และชื่อสกุล ตัวอักษรสูง ไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร ด้วยไหมหรือด้ํายสีด ํา โดยประดับที่อกเสื้อเหนือ กระเป๋ําบนขวํา ” ให้ไว้ ณ วันที่ 6 ธันวําคม พ.ศ . 256 5 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชํา นํายกรัฐมนตรี ้ หนา 7 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565

หมํายเหตุ : - เหตุผลในกํารประกําศใช้กฎ สํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับนี้ คือ เนื่องจํากข้ํารําชกํารกรมรําชทัณฑ์ มีภํารกิจที่จะต้องเข้ําร่วมงํานรัฐพิธีและพิธีกํารสําคัญทั้งในประเทศและต่ํางประเทศ สมควรแก้ไขเพิ่มเติม กฎสํานักนํายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 83 (พ.ศ. 2537) ออกตํามควํามในพระรําชบัญญัติเครื่องแบบข้ํารําชกําร ฝ่ํายพลเรือน พุทธศักรําช 2478 โดยแก้ไขเครื่องแบบพิธีกํารเป็นเครื่อง แบบปฏิบัติงํานเพื่อให้เหมําะสม กับภํารกิจ และก ําหนดให้มีเครื่องแบบพิธีกํารใหม่เพื่อให้เหมําะสมและเป็นสํากล จึงจ ําเป็นต้องออก กฎสํานักนํายกรัฐมนตรีนี้ ้ หนา 8 ่ เลม 139 ตอนที่ 75 ก ราชกิจจานุเบกษา 13 ธันวาคม 2565