คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 10/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 25/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสนั่น ชื่นบาน ผู้ถูกกล่าวหา]
คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 10/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 25/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายสนั่น ชื่นบาน ผู้ถูกกล่าวหา]
( อม.34 ) คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ อม. 10/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 25/2565 ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง วันที่ 9 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2565 คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้รอง นายสนั่น ชื่นบาน ผู้ถูกกลาวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้รองยื่นคํารองขอให้วินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองจงใจไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วา มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น กรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหาร สวนตําบลเขื่องคํา อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร (ครั้งที่ 2) ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของผู้ถูกกลาวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 , 114 วรรคสอง (1) , 167 , 188 ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พิเคราะหคํารอง ประกอบเอกสารทายคํารอง และคําให้การของผู้ถูกกลาวหาแล้ว ขอเท็จจริง รับฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา ระหวาง ้ หนา 28 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565
อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร (ครั้งที่ 2) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 และพนจากตําแหนง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีเขารับตําแหนงภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 แต่ผู้ถูกกลาวหา ไม่ดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองภายในระยะเวลา ที่กฎหมายกําหนด ผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหาทราบวา ยังมิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง และให้ผู้ถูกกลาวหายื่นภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ ผู้ถูกกลาวหาได้รับหนังสือแล้วไม่ดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รองภายในกําหนดดังกลาว ผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหามารับทราบขอกลาวหา ผู้ถูกกลาวหา ยื่นคําชี้แจงแกขอกลาวหาวา เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตั้งแต่การเขารับตําแหนงครั้งแรก จึงคิดวาไม่ต้องยื่นอีกในกรณีเขารับตําแหนง (ครั้งที่ 2) ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนในทุกดาน ซึ่งในพื้นที่ตําบลเขื่องคําประสบปญหาวิกฤติโรคโควิด 19 จึงต้องดูแลประชาชน สรางจุดพักคอย สถานกักกันผู้ติดเชื้อ ดูแลอาหารและเครื่องบริโภคอื่น ๆ ทั้งตัวเองต้องระวังตัวในการดําเนินชีวิต มิได้มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ประการใด ผู้รองพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันทวา ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองภายในระยะเวลา ที่กฎหมายกําหนดกรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา (ครั้งที่ 2) ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และให้ลงโทษทางอาญา ปญหาที่ต้องวินิจฉัยมีวา ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร (ครั้งที่ 2) หรือไม่ เห็นวา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใชบังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใชภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคํารอง เป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเทาเดิม จึงต้องใชกฎหมายที่ใชในขณะกระทําผิดบังคับแกคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง สวนการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งซึ่งเป็นมาตรการบังคับ ทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต ้ หนา 29 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565
พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็นคุณแกผู้ถูกกลาวหา จึงต้องใชพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแกคดีนี้เชนกัน เมื่อขอเท็จจริงฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา ผู้ถูกกลาวหา จึงเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้รองภายในสามสิบวัน นับแต่วันเขารับตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 แต่ผู้ถูกกลาวหาไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รองกรณีดังกลาวภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบ ทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบผู้ใชอํานาจรัฐ ประกอบกับปรากฏขอเท็จจริงตามทางไตสวนของผู้รองวา ผู้ถูกกลาวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีเขารับตําแหนง กรณีพนจากตําแหนง และกรณีพนจาก ตําแหนงมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งป (ครั้งแรก) มาแล้ว แสดงวาการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินอยู่ในความรับรูของผู้ถูกกลาวหาวาเป็นหน้าที่อันสําคัญของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง เมื่อผู้รองมีหนังสือแจงเตือนให้ถูกกลาวหาดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินให้ถูกต้อง ครบถวนภายในเวลาที่ผู้รองกําหนดแล้ว ผู้ถูกกลาวหายังคงเพิกเฉย ประกอบกับผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้วาผู้ถูกกลาวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สินนั้น จึงฟงได้วาผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด กรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา (ครั้งที่ 2) มีผลหามมิให้ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมืองหรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาหาปนับแต่วันพนจากตําแหนงตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกลาวหา ยังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้รอง กรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนตําบลเขื่องคํา (ครั้งที่ 2) ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย ้ หนา 30 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565
พิพากษาวา นา ยสนั่น ชื่นบาน ผู้ถูกกลาวหา จงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเขารับตําแหนงรองนายกองคการบริหาร สวนตําบลเขื่องคํา อําเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร (ครั้งที่ 2) ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 หามมิให้ ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมืองหรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาหาป นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกลาวหาพนจากตําแหนงตามมาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8 , 000 บาท ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน แกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4 , 000 บาท ไม่ปรากฏวาผู้ถูกกลาวหาเคยรับโทษจําคุกมากอน ประกอบกับศาลกําหนดโทษจําคุกระยะสั้น เห็นสมควรให้โอกาสแกผู้ถูกกลาวหากลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจําคุกให้รอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระคาปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30. นายประทีป อาววิจิตรกุล นางวยุรี วัฒนวรลักษณ นายประกอบ ลีนะเปสนันท นายณรงค กลั่นวารินทร นายธัชพงศ วิสุทธิสังวร นายวิธูร คลองมีคุณ นายโสภณ โรจนอนนท นางสาวบุญมี ฐิตะศิริ นายสันทัด สุจริต ้ หนา 31 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565