Tue Nov 29 2022 00:00:00 GMT+0000 (Coordinated Universal Time)

คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 12/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 23/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายวิภาส สุชาติล้ำพงศ์ ผู้ถูกกล่าวหา]


คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 12/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 23/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายวิภาส สุชาติล้ำพงศ์ ผู้ถูกกล่าวหา]

( อม.34 ) คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ อม. 12/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 23/2565 ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง วันที่ 25 เดือน ตุลาคม พุทธศักราช 2565 คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้รอง นายวิภาส สุชาติล้ําพงศ ผู้ถูกกลาวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้รองยื่นคํารองขอให้วินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหาร สวนจังหวัดนนทบุรี อําเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เป็นรองผู้บริหารทองถิ่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองตามกฎหมายและประกาศของผู้รอง ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกําหนด และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น กรณีพนจากตําแหนง ขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหา กับลงโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 , 114 วรรคสอง (1) และมาตรา 167 ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ ระหวาง ้ หนา 17 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565

พิเคราะหคํารองประกอบเอกสารทายคํารอง และคําให้การของผู้ถูกกลาวหาแล้ว ขอเท็จจริง รับฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ 2562 และพนจากตําแหนงเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ผู้ถูกกลาวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีเขารับตําแหนงแล้ว ผู้ถูกกลาวหามีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีพนจากตําแหนง ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2563 แต่ผู้ถูกกลาวหามิได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง ต่อมาผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และมีหนังสือแจงเตือน ผู้ถูกกลาวหาอีก 3 ครั้ง แต่ผู้ถูกกลาวหาเพิกเฉย ปญหาต้องวินิจฉัยมีวา ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สิน กรณีพนจา กตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี หรือไม่ เห็นวา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี เป็นรองผู้บริหารทองถิ่น ตามประกาศของผู้รอง และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วย การปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้รองเมื่อเขารับตําแหนง และเมื่อพนจากตําแหนงตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 102 (9) และมาตรา 105 โดยผู้ถูกกลาวหาเคยยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีเขารับตําแหนงแล้ว ผู้ถูกกลาวหายอมทราบถึงหน้าที่ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีพนจากตําแหนง แต่ผู้ถูกกลาวหามิได้ดําเนินการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ แต่อยางใด จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ ซึ่งหน้าที่ในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบนั้น เป็นหน้าที่ที่ผู้ถูกกลาวหาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้ใชอํานาจของรัฐ ทั้งผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้รอง รวม 4 ครั้ง ครั้งสุดทายเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 แต่ผู้ถูกกลาวหา ยังคงเพิกเฉย ตามพฤติการณจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้วาผู้ถูกกลาวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน และหนี้สินนั้น จึงฟงได้วาผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ้ หนา 18 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565

ต่อผู้รองกรณีพนจากตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี มีผลให้ผู้ถูกกลาวหา ต้องถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 และการกระทําของผู้ถูกกลาวหายังเป็นความผิด ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้นกรณีพนจากตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 อีกด้วย พิพากษาวา นายวิภาส สุชาติล้ําพงศ ผู้ถูกกลาวหาจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รอง และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สิน กรณีพนจากตําแหนงรองนายกองคการบริหารสวนจังหวัดนนทบุรี ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วย การปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8 , 000 บาท ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4 , 000 บาท ไม่ปรากฏวาผู้ถูกกลาวหาเคยได้รับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระคาปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30. นายเอกศักดิ์ ยันตรปกรณ นายธนิต รัตนะผล นายทรงพล สงวนพงศ นายณรงค ประจุมาศ นายสุวิทย พรพานิช นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน นางปยนุช มนูรังสรรค นายวิชัย เอื้ออังคณากุล นายพรเทพ อัมพรกลิ่นแกว ้ หนา 19 ่ เลม 139 ตอนที่ 74 ก ราชกิจจานุเบกษา 30 พฤศจิกายน 2565