ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตำแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตำแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565
ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง อาศัยอานาจตามความในมาตรา 144 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และข้อ 43 และข้อ 44 ของระเบียบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการบริหารทรัพยากรบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในฐานะองค์กรกลาง บริหารงานบุคคลของสำนักงาน ป.ป.ช. จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผล งาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภท วิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565” ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ข้อ 3 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งประกาศคณะกรรมการป้อ งกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารง ตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 6 ให้คณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงานดาเนินการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในระดับที่สูงขึ้น ในแต่ละปี ดังนี้ รอบประเมินที่ 1 สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน และให้คณะกรรมการประ เมินบุคคลและผลงานดาเนินการประเมินบุคคลและผลงาน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม ของปีนั้น รอบประเมินที่ 2 สำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม และให้คณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงานดาเนินการประเมินบุคคลและผลงาน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน ของปีถัดไป บุคคลใดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในรอบประเมินใด ให้มีสิทธิยื่นคาขอเข้ารับการประเมินบุคคล และผลงานพร้อมชื่อเรื่องของผลงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่สานักงาน ป.ป.ช. ประกาศกาหนด ้ หนา 14 ่ เลม 139 ตอนที่ 70 ก ราชกิจจานุเบกษา 10 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้ารับการประเมินอาจยื่นคาขอเข้ารับการประเมินบุคคลและผลงานได้ล่วงหน้าไม่เกิน 15 วันก่อนวันที่มีคุณสมบัติคร บถ้วนตามที่หลักเกณฑ์กำหนดก็ได้ ” ข้อ 4 ให้ยกเลิกความใน (2) ของข้อ 9 แห่งประกาศคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้น แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “( 2) ด้านสมรรถนะและลักษณะงาน (50 คะแนน) ให้นำผลการประเมินด้านสมรรถนะและลักษณะงานของบุคคลซึ่งประเมินโดย ผู้บังคับบัญชามาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาประเมินคุ ณลักษณะของบุคคล สมรรถนะ และลักษณะงานของผู้เข้ารับการประเมิน เมื่อผู้เข้ารับการประเมินมีสิทธิยื่นคำขอเข้ารับ การประเมินบุคคลและผลงาน ” ข้อ 5 ให้ยกเลิกความในข้อ 12 แห่งประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมิ นบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 12 เพื่อประโยชน์ในการศึกษาหรือใช้อ้างอิงและการตรวจสอบผลงานของผู้เข้ารับ การประเมินว่า เป็นผลงานที่ซ้าซ้อนหรือลอกเลียนจากบุคคลอื่นหรือไม่ หรือเป็นการจัดทาผลงานเท็จ โดยนาผลงานของบุคคลอื่นมาใช้เป็นผลงานของตน หรือกาหนดสัดส่วนการร่วมปฏิบัติงานเป็นเท็จ หรือไม่ ให้คณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงานประกาศรายชื่อผู้เข้ารับการประเมินและชื่อผลงาน ที่ไ ด้นำเสนอเข้ารับการประเมินอย่างเปิดเผย เช่น ประกาศใน Intranet หรือ Website www . nacc . go . th หรือปิดประกาศ ณ สานักบริหารทรัพยากรบุคคล สานักงาน ป.ป.ช. และให้มี การทักท้วงได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันประกาศ และหากมีผู้ทักท้วงตามกรณีข้างต้น ให้คณะกรรมการประเมินบุคคลและผลงานตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นโดยเร็ว หากพบว่า ข้อทักท้วง มีมูลเข้าลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดตามแนวทางที่สานักงาน ป.ป.ช. กาหนด หรือถ้าตรวจสอบแล้ว มีหลักฐานว่า ข้อทักท้วงนั้นเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่สุจริต ให้รายงานเลขาธิการคณะกร รมการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ” ข้อ 6 ให้ยกเลิกความในข้อ 13 แห่งประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน ้ หนา 15 ่ เลม 139 ตอนที่ 70 ก ราชกิจจานุเบกษา 10 พฤศจิกายน 2565
“ ข้อ 13 การแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งกรณีผู้เข้ารับการประเมินผ่านการประเมินผลงาน ให้แต่งตั้งได้ไม่ก่อนวันที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติและผลงานครบถ้ วนตามหลักเกณฑ์ที่กาหนด และไม่ก่อนวันที่ ยื่นคำขอเข้ารับการประเมินบุคคลและผลงานที่มีเอกสารหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ กรณีนอกเหนือจากหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กาหนดไว้ในข้อนี้ ให้เสนอคณะอนุกรรมการ ข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช. พิจารณาและมีมติเป็นรายกรณี ” ข้อ 7 ให้ยกเลิ กความในข้อ 14 แห่งประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินบุคคลและผลงาน เพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้ง ให้ดารงตาแหน่งประเภทวิชาการยุติธรรม ตาแหน่งพนักงานไต่สวนระดับกลาง และระดับสูง พ.ศ. 2562 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ ข้อ 14 ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักบริหารทรัพยากรบุคคล ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น ตามหลักเกณฑ์ที่กาหนด และแจ้งข้อมูลให้ข้าราชการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้รับทราบและตรวจสอบ ความถูกต้องอย่างน้อยสองเดือนก่อนรอบประเมินของข้าราชการดังกล่าว ” ประกาศ ณ วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 25 65 พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ้ หนา 16 ่ เลม 139 ตอนที่ 70 ก ราชกิจจานุเบกษา 10 พฤศจิกายน 2565