พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565
พระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่ง ของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับ สาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตาแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อาศัยอานาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรม นูญแห่งราชอาณาจักรไทย กับมาตรา 56 วรรคสอง และมาตรา 60 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2565 ” ้ หนา 41 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 3 แห่ งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็ มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 3 ให้กาหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสาหรับสาขาวิชาของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา ดังต่อไปนี้ (1) สาขาวิชาการบัญชี มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ บัญชีดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ บัญชีมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ บัญชีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บช.บ. ” (2) สาขาวิชาการศึกษา มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ครุศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ครุศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.บ. ” (3) สาขาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ครุศาสตร์อุตสาหกรรมบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ค.อ.บ. ” ้ หนา 42 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
(4) สาขาวิชาเทคโนโลยี มีปริญญาสองชั้น คือ (ก) โท เรียกว่า “ เทคโนโลยีมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ทล.ม. ” (ข) ตรี เรียกว่า “ เทคโนโลยีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ทล.บ. ” (5) สาขาวิชานิติศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ นิติศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ นิติศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ น.บ. ” (6) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ นิเทศศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ นิเทศศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ นศ.บ. ” (7) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ บริหารธุรกิจบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ บธ.บ. ” (8) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎี บัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ รป.บ. ” (9) สาขาวิชารัฐศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ร.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” ้ หนา 43 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
(ข) โท เรียกว่า “ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ร.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ รัฐศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ร.บ. ” (10) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ วิทยาศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วท.บ. ” (11) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสต ร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ วศ.บ. ” (12) สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป .ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศป.บ. ” (13) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ ศิลปศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศศ.บ. ” (14) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.ด. ” และ “ ปรัชญา ดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” ้ หนา 44 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
(ข) โท เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ เศรษฐศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ศ.บ. ” (15) สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ สถาปัตยกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ สถ.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ สถ.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ สถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ สถ.บ. ” (16) สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.ด. ” และ “ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ปร.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ สาธารณสุขศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ ส.บ. ” (17) สาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ มีปริญญาสามชั้น คือ (ก) เอก เรียกว่า “ อุตสาหกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ อส.ด. ” (ข) โท เรียกว่า “ อุตสาหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ อส.ม. ” (ค) ตรี เรียกว่า “ อุตสาหกรรมศาสตรบัณฑิต ” ใช้อักษรย่อ “ อส.บ. ” ทั้งนี้ หากมีสาขาหรือวิชาเอกให้ระบุชื่อสาขาหรือ วิชาเอกนั้นไว้ในวงเล็บต่อท้ายปริญญาด้วย ” มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา 7 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสาหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจาตาแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครราชสีมา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2564 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ มาตรา 7 สีประจำสาขาวิชา มีดังต่อไปนี้ ( 1) สาขาวิชาการบัญชี สีเขียวตองอ่อน (2) สาขาวิชาการศึกษา สีฟ้า (3) สาขาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม สีเหลืองอำพัน ้ หนา 45 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
(4) สาขาวิชาเทคโนโลยี สีม่วงเม็ดมะปราง (5) สาขาวิชานิติศาสตร์ สีขาว (6) สาขาวิชานิเทศศาสตร์ สีน้ำเงิน (7) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ สีชมพู (8) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ สีน้ำตาล (9) สาขาวิชารัฐศาสตร์ สีแดงทับทิม (10) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ สีเหลือง (11) สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ สีแดงเลือดหมู (12) สาขาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ สีแดงเลือดนก (13) สาขาวิชาศิลปศาสตร์ สีแสด (14) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ สีทอง (15 ) สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ สีเทา (16) สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ สีบานเย็น (17) สาขาวิชาอุตสาหกรรมศาสตร์ สีเปลือกมังคุด ” ผู้รับสนองพระ บรม ราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ้ หนา 46 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565
หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เปิดสอนสาขาวิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิชาเทคโนโลยี และสาขาวิชารัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น สมควรกำหนดปริญญาในสาขาวิชาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชา รวมทั้งสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ้ หนา 47 ่ เลม 139 ตอนที่ 69 ก ราชกิจจานุเบกษา 8 พฤศจิกายน 2565