กฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองบึงคู้ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. 2565

กฎ กระทรวง ก้ําหนดให้ทํางน ้ําชลประทํานคลองบึงคู้ เป็นทํางน้ําชลประทํานที่จะเรียกเก็บค่ําชลประทําน พ.ศ. 25 65 อําศัยอ้ํานําจตํามควํามในมําตรํา 8 (1) แห่งพระรําชบัญญัติกํารชลประทํานหลวง พุทธศักรําช 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรําชบัญญัติกํารชลประทํานหลวง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2518 และมําตรํา 42 วรรคหนึ่ง แห่งพระรําชบัญญัติกํารชลประทํานหลวง พุทธศักรําช 2485 รัฐมนตรีว่ํากํารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี ให้ทํางน ้ําชลประทํานคลองบึงคู้ จ ํากกิโลเมตรที่ 0.000 ในท้องที่ต้ําบลคลองหลวงแพ่ง อ้ําเภอเมืองฉะเชิงเทรํา จังหวัดฉะเชิงเทรํา ถึงกิโลเมตรที่ 2.200 ในท้องที่ต้ําบลคลองอุดมชลจร อ้ําเภอเมืองฉะเชิงเทรํา จังหวัดฉะเชิงเทรํา ตํามแนวเขตแผนที่ท้ํายกฎกระทรวงนี เป็นทํางน ้ําชลประทําน ที่จะเรียกเก็บค่ําชลประทําน ให้ไว้ ณ วันที่ 14 กันยํายน พ.ศ . 256 5 เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่ํากํารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ้ หนา 62 ่ เลม 139 ตอนที่ 66 ก ราชกิจจานุเบกษา 25 ตุลาคม 2565

หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรกำหนดให้ ทางน้าชลประทานคลองบึงคู้ เป็นทางน้าชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จาก การใช้น้าอย่างเต็มที่ และเนื่องจากมาตรา 8 (1) แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พุทธศักราช 2485 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2518 บัญญัติให้ทางน้า ชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานต้องกำหนดโดยกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้ ้ หนา 63 ่ เลม 139 ตอนที่ 66 ก ราชกิจจานุเบกษา 25 ตุลาคม 2565