คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 7/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 16/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายขรรค์ชัย ดอนพิมพา ผู้ถูกกล่าวหา]
คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน [คดีหมายเลขดำที่ อม. 7/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 16/2565 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายขรรค์ชัย ดอนพิมพา ผู้ถูกกล่าวหา]
(อม.34 ) คําพิพากษา คดีหมายเลขดําที่ อม. 7/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 16/2565 ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมือง วันที่ 9 เดือน สิงหาคม พุทธศักราช 2565 คณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้รอง นายขรรคชัย ดอนพิมพา ผู้ถูกกลาวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ผู้รองยื่นคํารองขอให้วินิจฉัยวา ผู้ถูกกลาวหาเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริง ที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี อําเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ขอให้เพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกลาวหา กับลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 , 114 วรรคสอง (1) , 167 ประกอบมาตรา 188 ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พิเคราะหคํารอง ประกอบเอกสารทายคํารอง และคําให้การของผู้ถูกกลาวหาแล้ว ขอเท็จจริง รับฟงได้วา เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 ผู้ถูกกลาวหาได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหนงรองนายกเทศมนตรี ระหวาง ้ หนา 20 ่ เลม 139 ตอนที่ 62 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 ตุลาคม 2565
เมืองสุโขทัยธานี อําเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ 2561 ผู้ถูกกลาวหา พนจากตําแหนง ต่อมาวันที่ 27 เมษายน 2564 ผู้ถูกกลาวหาได้รับการเลือกตั้งให้ดํารงตําแหนง นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี และพนจากตําแหนงด้วยการลาออก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ผู้ถูกกลาวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้รองกรณีพนจาก ตําแหนงรองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 โดยไม่แสดงรายการ ทรัพย์สินที่ดิน 3 แปลง ของผู้ถูกกลาวหา โฉนดเลขที่ 33442 ตําบลวังวน อําเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ 22 ไร 80 ตารางวา มูลคา 666 , 000 บาท โฉนดเลขที่ 56611 ตําบลทาชาง อําเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ 9 ไร 3 งาน 18.9 ตารางวา มูลคา 489 , 875 บาท และโฉนดเลขที่ 40603 ตําบลวังวน อําเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เนื้อที่ 9 ไร 3 งาน 87.1 ตารางวา มูลคา 337 , 280 บาท รวมมูลคา 1 , 493 , 155 บาท ผู้รองมีหนังสือแจงให้ผู้ถูกกลาวหาชี้แจงขอเท็จจริงแล้ว ผู้ถูกกลาวหาชี้แจงวา ได้มอบหมายให้บุคคลอื่น จัดทําบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแทนโดยไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อมาผู้รองมีมติวา ผู้ถูกกลาวหากระทําความผิดตามคํารอง ปญหาต้องวินิจฉัยมีวา ผู้ถูกกลาวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสาร ประกอบต่อผู้รองด้วยขอความอันเป็นเท็จ หรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณ อันควรเชื่อได้วามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน กรณีพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรี เมืองสุโขทัยธานีหรือไม่ เห็นวา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใชบังคับเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใชภายหลัง การกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคํารองเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเทาเดิม จึงต้องใชกฎหมายที่ใชในขณะกระทําความผิดบังคับแกคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคแรก แต่องคประกอบความผิดตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง ในสวนที่วาจะต้องมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วา ผู้ถูกกลาวหามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินด้วยนั้น เป็นคุณแกผู้ถูกกลาวหามากกวากฎหมายเดิม ้ หนา 21 ่ เลม 139 ตอนที่ 62 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 ตุลาคม 2565
จึงต้องนําพฤติการณดังกลาวมาประกอบการวินิจฉัยการกระทําความผิดในคดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 ที่บัญญัติให้ใชกฎหมายในสวนที่เป็นคุณไม่วาในทางใด สวนการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 มิใชมาตรการบังคับทางการเมืองตามกฎหมายที่ใชในขณะกระทําความผิด จึงต้องใชพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง บังคับแกคดีนี้ เมื่อขอเท็จจริงรับฟงได้วา ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงรองนายกเทศมนตรี เมืองสุโขทัยธานี จึงเป็นผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มีหน้าที่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ต่อผู้รองภายในสามสิบวันนับแต่วันเขารับตําแหนงและวันพนจากตําแหนง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ วาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ผู้ถูกกลาวหา ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อผู้รอง กรณีพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินที่ดิน 3 แปลงของผู้ถูกกลาวหา รวมมูลคา 1 , 493 , 155 บาท ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองที่ต้องปฏิบัติ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดํารงตําแหนงทางการเมืองเพื่อให้เกิดการตรวจสอบ ผู้ใชอํานาจรัฐ ประกอบกับผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ พฤติการณมีเหตุอันควรเชื่อได้วา ผู้ถูกกลาวหา มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้น จึงฟงได้วาผู้ถูกกลาวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อผู้รองด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบกรณีพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรี เมืองสุโขทัยธานี มีผลหามมิให้ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมืองหรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาหาปนับแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ 2561 ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกลาวหาพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรี เมืองสุโขทัยธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง และการกระทําของผู้ถูกกลาวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการปองกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติด้วยขอความอันเป็นเท็จหรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ กรณีพนจากตําแหนง รองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 ด้วย ้ หนา 22 ่ เลม 139 ตอนที่ 62 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 ตุลาคม 2565
พิพากษาวา นายขรรคชัย ดอนพิมพา ผู้ถูกกลาวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด้วยขอความอันเป็นเท็จ หรือปกปดขอเท็จจริงที่ควรแจงให้ทราบ และมีพฤติการณอันควรเชื่อได้วา มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น กรณีพนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี อําเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 32 และมาตรา 33 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 หามมิให้ผู้ถูกกลาวหาดํารงตําแหนงทางการเมือง หรือดํารงตําแหนงใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาหาป นับแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ 2561 ซึ่งเป็นวันที่ พนจากตําแหนงรองนายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วย การปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคสอง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญวาด้วยการปองกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 จําคุก 2 เดือน และปรับ 8 , 000 บาท ผู้ถูกกลาวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชนแกการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจําคุก 1 เดือน และปรับ 4 , 000 บาท ไม่ปรากฏวาผู้ถูกกลาวหาเคยได้รับโทษจําคุกมากอน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไวมีกําหนด 1 ป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระคาปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 , 30. นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ นายนพรัตน์ สี่ทิศประเสริฐ นางนวลทิพย์ ฉัตรชัยสกุล นายธวัชชัย รัตนเหลี่ยม นายชูศักดิ์ จําปา นายเชด กวีบริบูรณ นายสุรศักดิ์ ตันโสรัจประเสริฐ นางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย นายเถกิงศักดิ์ คําสุระ ้ หนา 23 ่ เลม 139 ตอนที่ 62 ก ราชกิจจานุเบกษา 6 ตุลาคม 2565